Saturday, June 30, 2007

เหตุเกิดที่ เฉลียง


กำลังจะผ่านพ้นไปอีกเดือน ตอนแรกนึกว่าเดือนนี้จะเป็นเดือนแรกที่ไม่ได้บันทึกอะไรไว้เลย แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังมีเรื่องมาให้เขียนอีกจนได้

วันนี้ไปดูคอนเสริต์เฉลียงมาค่ะ ชื่อคอนเสริต์ครั้งนี้ชื่อว่า
“งานดนตรีบำบัด ถาปัดจัด เฉลียงโชว์
เหตุเกิดที่ เฉลียง”


ในชีวิตแทบจะไม่เคยไปดูคอนเสริต์มาเลย นี่นับว่าเป็นปรากฎการณ์เลยทีเดียว แหะ แหะ
ไม่คิดว่า เฉลียง จะกลับมาเล่นคอนเสริต์อีกครั้ง เหมือนกับว่า ครั้งล่าสุดเมื่อ 7 ปีที่แล้ว พี่ดี้ ประกาศว่าจะเป็นการเล่นคอนเสริต์ครั้งสุดท้าย แต่กลับมาเล่นอีกทีก็ดีอ่ะค่ะ ครั้งนี้ต้องไปดูซะหน่อย

ด้วยความไฮโซของเรา จะซื้อบัตรดูคอนเสริต์ทั้งทีก็ต้องให้หรูเข้าไว้ นี่เลย 600 บาท อิอิ ราคาสูงสุด เอ้ย ไม่ใช่ ราคาต่ำสุด แหม คนมันอยากนั่งบนที่สูงอ่ะ 555

Lunar ไปดูรอบบ่ายโมง บริเวณรอบๆงาน มีขายของที่ระลึกของเฉลียง อย่าง CD รวมเพลงทั้งหมดของเฉลียง, เสื้อ, หนังสือ etc. แล้วก็มีการประมูลของที่ระลึก อย่างเช่น กีตาร์ของพี่เจี๊ยบพร้อมลายเซ็น, รูปสมัยเด็กๆของพี่ๆทั้งวงพร้อมลายเซ็น, รูปงานคอนเสริต์ โปสการ์ดขนาดใหญ่, ต้นฉบับ ตั้งชื่อวง เห็นราคาประมูลเริ่มต้น 2000 บาท ยังไม่ค่อยมีคนประมูลเท่าไหร่ คาดว่า รอบทุ่มน่าจะมีการประมูลมากกว่านี้

Lunar กับ เอ๋ ซื้อเสื้อยืดสีขาวมาตัวหนึ่ง ด้านหน้าเป็นโน้ตดนตรีเพลง “ไม่รักแต่คิดถึง” ราคา 250 บาท ถือว่าเป็นที่ระลึกในการมาดูคอนเสริต์ครั้งนี้ละกัน
กว่าจะเปิดให้เข้าไปดูก็เกือบบ่ายละ เข้าไปใน impact arena อือม ใหญ่โตมโหฬารจริงๆ

อันที่จริง บ้านก็อยู่ใกล้ๆเมืองทอง แต่ แหะ แหะ ไม่เคยเข้ามาใน impact arena บนอัฒจรรย์เลยอ่ะค่ะ แถมมานั่งบนๆซะด้วย ดูแล้วชักหวาดเสียว
ตอนแรกนึกว่าคนจะไม่เยอะ คาดว่าจะไปเยอะรอบทุ่มซะมากกว่า แต่ผิดคาด คนเยอะมากๆ แม้ว่าจะไม่เต็มทุกที่นั่งก็ตาม ก็น่าจะประมาณ 85% ได้อ่ะค่ะ

งานคอนเสริต์คราวนี้ เหมือนกับว่าจัดเพื่อหารายได้เข้าสมาคมนิสิตเก่า สถาปัตยฯ จุฬา พี่ๆเฉลียงเนี่ย ใจดีจัง
แต่กว่า พี่ๆเขาจะเริ่มเล่นคอนเสริต์ได้ก็ บ่าย 40 แล้ว รอๆๆๆ นานจัง
เมื่อเริ่มเล่น โอ้ พี่ๆเขาออกมาบนเวที lunar มองไม่ค่อยเห็นเลยอ่ะค่ะ ดูไกลๆก็แบบว่า เดาว่าแต่ละคนคือใคร เห็นบางคนรูปร่างอ้วนๆก็พยายามเดาอยู่ว่าเป็นใคร แต่เดาอยู่ไม่นานก็เฉลยอ่ะค่ะ

จริงๆแล้ว จะมี projector อยู่ 2 ตัว เอาไว้ถ่ายทอดด้วย สุดท้ายก็รู้ว่า บนเวทีที่เห็นตอนนี้ มีพี่ๆเฉลียงแค่ 3 คน อีก 2 คนคือ ดู๋ สัญญา กับ ซูโม่กิ๊ก เป็นพิธีกรของงานนั่นเอง
คอนเสริต์เริ่มต้นด้วยฉาย slide เล่าถึงงานคอนเสริต์เมื่อ 14 กับ 7 ปีที่แล้วคร่าวๆ จบ slide ด้วยคำประกาศของพี่ดี้ว่าจะไม่มีคอนเสริต์เฉลียงอีกแล้ว การกล่าวเปิดงานในวันนี้ ก็เลยดูประหนึ่งว่า เป็นการอธิบายกลายๆว่า ทำไมถึงมีการจัดอีกครั้ง

พี่ดี้วันนี้เหมือนประหนึ่งเป็นจำเลยก็ไม่ปาน เดี๋ยวโดนพี่แต๋ง โดยเฉพาะพี่เจี๊ยบเนี่ย แขวะตลอด พี่ดี้ให้การว่า อือม.. น้องๆอยากให้จัดช่วยหารายได้เข้าสมาคม แต่คิดว่ายังไงซะ แฟนๆเฉลียงก็ไม่ติดใจไรหรอกค่ะ เพราะอยากดูพี่ๆเล่นคอนเสริต์อยู่แล้ว
วันนี้มี surprise ด้วย พี่ๆเขาเอาลูกๆขึ้นเวทีกันด้วย งานนี้ขาดแต่พี่จุ้ย ยังไม่มีซักกะหน่อกับเขา งานนี้ลูกพี่เกี๊ยงได้รับคะแนนไปเต็มๆ ก็น้องแก้ม อายุ 2 ขวบเศษๆ น่ารักมากกกกก เลยค่ะ น่าตาเหมือนกับเด็กญี่ปุ่นเลย

พี่ๆเขาให้ theme ช่วงนี้ว่า ช่วยกันทำมาหากิน ลูกคนเล็กของพี่แต๋งโชว์แซกโซโฟนด้วย ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเลย
ส่วนน้องแก้มก็ร้องเพลงร่วมกับคุณพ่อ อ่ะ lunar ไม่รู้ชื่อเพลงอ่ะค่ะ เป็นเพลงเกี่ยวกับพ่อลูก น้องแก้มงานนี้ได้ใจคนดูไปเต็มๆ
ก่อนน้องๆจะลงจากเวที มีคนดูเอาดอกไม้ ตุ๊กตามาให้เหล่าบรรดาลูกๆๆ น้องแก้มดูเหมือนจะได้มากสุด พี่เจี๊ยบยังไม่วายแซวพี่เกี๊ยงว่า

“ได้ดอกไม้เยอะตั้งแต่รุ่นพ่อยันรุ่นลูก ที่พูดเนี่ยไม่ได้อิจฉาเลยนะเกี๊ยง”

เล่นเอาคนดูฮาตรึม
งานนี้ จะมีแขกรับเชิญของแต่ละคนมาด้วย เริ่มจาก

พี่ดี้ – น้องโรส (จะบอกว่า lunar ไม่รู้จักอ่ะ) มาร้องเพลงนายไข่เจียวกับพี่ดี้ แล้วก็ ก้อนหินก้อนนั้น แล้วก็อีกเพลงของเฉลียง (จำไม่ได้แล้ว)
พี่เกี๊ยง – ตุ๊ก วิยะดา มาร้องเพลง ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน
พี่แต๋ง – พาลูกชายคนโต น้องต้นน้ำ มาเปิดตัว พร้อมกับเพื่อนๆอีก 2 คน มากันเป็นวง
พี่จุ้ย – ป้าง นครินทร์ มาร้องเพลง กับ นก ฉัตรชัย สมาชิกอีกคนของเฉลียง (อิอิ ตอนแรกที่ประกาศ lunar นึกว่า นก ฉัตรชัย เปล่งพานิช ซะอีก 555)
ตอนพี่ป้างออกมาเนี่ย ดูเหมือนทั้ง hall จะครึกครื้นขึ้นมา มีการตบมือเข้าจังหวะ พี่จุ้ยก็แซวว่า อือม ดูเหมือนเป็นคอนเสริต์หน่อย ไม่เหมือนพวกนั้น ร้องเพลงหงุงหงิงๆ 5555
ดูเหมือน พี่เจี๊ยบจะไม่ได้พาใครมาเป็น guest ซะงั้น แต่เท่านี้ lunar ว่าก็เยอะแล้วนะ เพราะจริงๆแล้ว คนดูอยากดูเฉลียงมากกว่า จริงมั๊ย

แต่งานนี้ ไหนๆก็ถาปัดแล้ว พิธีกรทั้ง 2 ก็ไม่เว้น ต้องร้องเพลงของเฉลียงด้วย ทั้งคู่ร้องเพลง อยากมีหมอน แต่เป็นแนวเพลงเร็ว แบบหางเครื่อง มีสาวๆหางเครื่องสีชมพูสดใสด้วย ก็ ok ฟังแล้วก็ได้อารมณ์อีกแบบ
พอหมดบรรดา guest กับ พิธีกรแล้ว ก็เป็นคราวของเฉลียงทั้งวง ทั้ง 6 คนเลยรวมพี่นกเข้าไปด้วย มีร้องอีก เพลง , 2 เพลง แล้วก็มาถึงเพลง นิทานหิ่งห้อย

เพลงนี้เดิมพี่จุ้ยเป็นคนร้อง มาคราวนี้ พี่เจี๊ยบแกจะเล่านิทานสดๆกัน ตอนแรกทำเป็นว่า อ้างจากความเดิมตอนที่แล้ว (โห 7 ปีก่อน ใครจะไปจำได้) แต่แล้วก็เล่านิทานเรื่องใหม่ เป็นเรื่องกบเลือกเจ้านาย (อิอิ กลายเป็นเรื่องการเมืองซะงั้น) มีการดำเนินเรื่องโดยใช้ชื่อคล้ายนามแฝง เช่น คะมะชะ, พจมาน สว่างวงศ์, กบจำศีล 5 ปี, แมว เติมไม้โท ไรทำนองเนี้ย ที่เด็ดกว่านั้น ในขณะที่พี่เจี๊ยบเลี่ยงๆชื่อจริง, พี่จุ้ยกลับชกตรงๆ เช่น คมช (แต่แอบเล่นมุข ว่า ย่อมาจาก คนมหาชัย ซะงั้น) ,ทหารแน่นักเหรอ จนพี่ดี้บอกว่า เออพอเหอะ

ท้ายๆการแสดง พอพี่ๆเล่นจบแล้วเดินเข้าหลังเวทีไป ดูเหมือนคนดูจะรู้ว่า ยังไม่จบหรอก มันดูห้วนๆชอบกล พอคนดูปรบมือเท่านั้น พี่ๆก็เดินออกมาอีก
พี่ดี้บอกว่า ต้องรีบออกมา ไม่งั้นจะไม่เหลือคนดูจริงๆ (555 หยอดมุขจนนาทีสุดท้ายเลยพี่แกเนี่ย)
ก็ออกมาล่ำลาพร้อมกับร้องเพลงสุดท้าย พี่จุ้ยถามว่า

พี่จุ้ย : ว่าไงพี่ดี้ จะกล่าวปิดท้าย ไรอีกหรือเปล่า หรือว่าเราจะมาเล่นคอนเสริต์กันทุกๆ 7 ปีมั๊ย
พี่เจี๊ยบ : ทุกครั้งที่เปลี่ยนรัฐบาล
พี่ดี้ : ไม่พูดไร ไม่สัญญาไรล่ะ ยังไงซะ ผมก็ขอยืนยันว่า คอนเสริต์คราวที่แล้วเป็นคอนเสริต์ครั้งสุดท้าย คราวนี้เป็นภาคผนวก

สุดท้ายพี่ดี้ก็ปิดท้ายคอนเสริต์ในแบบเฉลียงอยู่ดี