Saturday, April 28, 2007

100 ปี ตลาดสามชุก:บึงฉวาก

วันนี้มี trip เล็กๆไปเที่ยวใกล้ๆกรุงเทพ หลังจากที่พี่แหม่มนำเสนอ 100 ปี ตลาดสามชุก ที่จังหวัดสุพรรณบุรี

ว่าอันที่จริง ก็ยังไม่เคยไปเที่ยวสุพรรณ ถิ่นบรรหาร แจ่มใส ซักกะที ทั้งๆที่ ไม่ไกลจากกรุงเทพ คราวนี้ได้โอกาสซักกะที

ทริปนี้ ไปกัน 6 คน มี lunar,Aey,Biere,P'Tum,P'Mam,Tong ขับรถไปกัน 2 คัน วันนี้ท้องฟ้าดูหม่นๆ หลายวันนี้พายุเข้า บางทีอาจยังมีควันหลงจากเมื่อวาน

จุดแรกที่ตั้งใจว่าจะไป คือตัวเมืองชลบุรี ว่าจะไปหอคอยบรรหาร แต่ดูๆแล้ว อันเนื่องจากพวกเราเริ่มเดินทางกันเกือบ 10 โมงแล้ว ก็เลยว่าจะไปตลาดสามชุกกันก่อนเลย



ถึงตลาดสามชุกก็เกือบเที่ยงละ ยังเดินไม่เท่าไร ก็แวะกินข้าวห่อใบบัวก่อนเลย

ร้านนี้อ่ะค่ะ

ส่วนใหญ่สมาชิกจะสั่งข้าวห่อใบบัวกัน ลักษณะคล้ายบะจ่างเลยอ่ะค่ะ ต่างกันที่ใช้ข้าวเจ้า ไม่ใช่ข้าวเหนียว แล้วก็ห่อด้วยใบบัว แต่เครื่องต่างๆ เช่น หมู กุนเชียง เห็ดหอม กุ้งแห้ง จะเหมือนๆกัน

ข้าวห่อใบบัว

ก๋วยเตี๋ยวยำบก

แต่ lunar สั่ง ก๋วยเตี๋ยวยำบก แต่จะไม่ได้ห่อเป็นคำๆ ใส่เครื่องเคียงคล้ายๆสลัด ยำ ก็ OK นะ ลองกินหลายๆอย่าง

ตลาดที่นี่เป็นชุมชนค่อนข้างใหญ่อ่ะค่ะ แต่ก็ขอชมนะคะว่า คนที่นี่ก็พยายามอนุรักษ์สถานที่แห่งนี้เอาไว้ ทำให้พวกเราได้เห็น ชุมชนเมื่อร้อยปีก่อน

ร้านไพศาลสมบัติ

เครื่องเล่นแผ่นเสียง

แผ่นเสียง Elvis

คนที่นี่น่ารักค่ะ นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปได้ตามสบาย แม้แต่ร้านถ่ายรูปที่มีบริการถ่ายรูปด้วยกล้องแบบโบราณ (ร้านศิลป์ธรรมชาติ) ก็สามารถเข้าไปถ่ายรูปได้ เจ้าของร้าน ยังแนะนำอีกด้วยว่า ต้องถ่ายขาตั้งกล้องให้เห็นลายด้วยถึงจะสวย ทั้งหมดนี้ไม่คิดค่าบริการเลยสักบาทเดียว อีกอย่างดูเหมือนคนที่นี่จะอารมณ์ดี ทริปของเราพูดคุยตลกโปกฮา ชาวบ้านที่นั่นขำกันใหญ่

หน้าร้านศิลป์ธรรมชาติ

ไม่ได้เป็นลูกค้า แต่ขอแอ็คชั่นหน้าร้านละกัน

โรงแรมอุดมโชค (เก่าแก่ซะ)

ขนม ของเล่นโบราณ หน้าโรงแรม

สภาพในโรงแรม ยังเหมือนเดิม

ภายในโรงแรมอุดมโชค ยังคงสภาพเดิมไว้เหมือนเมื่อก่อน ดูๆมันเงียบๆ วังเวง น่ากลัวชอบกล คืออาจเป็นเพราะเขาจัดให้คงสภาพเดิมด้วยมั้ง ไม่ได้จัดแต่งอะไรใหม่

ร้านบ้านโค้ก

มอเตอร์ไซด์ จุดเด่นหน้าร้าน

โปสเตอร์โค้ก

ร้านขนมระหว่างทาง

วันนี้มีเด็กๆนักเรียน มาเที่ยวที่นี่ด้วย มากัน 3 คันรถบัส ทำให้ไปที่ไหน เจอแต่กลุ่มนักเรียนทั้งนั้น เลยทำให้การถ่ายรูปไม่ค่อยสะดวกแหะ

บ้านขุนจำนงจีนารักษ์

ภายในบ้านขุนจำนง

ส่วนหนึ่งของแบบจำลองของตลาดสามชุก

ตู้เย็น โอ้วจอร์ชมันยอดมาก

ชั้นสองของบ้าน


ไม่ได้เล่นจ๊ะเอ๋นะ แค่ถ่ายรูป

บ่าย 2 ครึ่งแล้ว ได้เวลาต้องไปกันต่อ สถานที่ต่อไปที่พวกเราจะไปคือ บึงฉวาก

เคยเห็นในทีวี เป็นแหล่งแสดงปลาน้ำจืด เคยไปดูมาหลายที่ แต่ส่วนใหญ่เป็นปลาทะเล ทั้งที่ Siam Ocean World, ที่บางแสน หรือที่สิงคโปร์ เห็นว่าที่นี่มีอุโมงค์ปลาด้วย

พวกเรารีบเดินทาง แต่ก็ยังไม่ทันกลุ่มเด็กนักเรียน ที่ล่วงหน้าไปก่อน ค่าเข้าชมที่นี่ 30 บาทค่ะ



ปลาที่นี่ก็หลากหลาย ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป แต่อุโมงค์ปลาเนี่ยซิ มีแค่นิดเดียวเองอ่ะ คือว่าเคยไปดูหลายที่ อุโมงค์จะยาวมาก มีที่นี่แหละค่ะ อุโมงค์สั้นนิดเดียว เอ๋บอกจะเอาไรมาก 30 บาทเนี่ย อือม..รวมๆก็ถือว่า OK คุ้มค่ากับค่าบัตร

แต่ที่อุโมงค์ปลาเนี่ยค่ะ แม้จะสั้นนิดเดียว แต่ก็มี option เสริม คือมีการแสดงให้อาหารปลา ปลามา มะรุมมะตุ้ม สาวน้อยน่ารักที่ให้อาหารปลา ไม่ว่าเธอคนนั้นจะว่ายน้ำไปทางไหน ปลาก็ว่ายตามติดไป อือม..ก็ดูเพลินๆดีอ่ะค่ะ

สาวน้อยให้อาหารปลา

ที่นี่นอกจากมีปลาให้ชมกันแล้ว ก็ยังมีสวนสัตว์อีกค่ะ เดินไปดูจระเข้ได้นิดเดียวก็เดินกลับ เพราะเพิ่งเอียนกับฟาร์มจระเข้ที่เพิ่งไปดูมาเมื่อช่วงสงกรานต์

แวะกินเฉาก๊วยซะหน่อย

ขอควงบั๊กบันนี่หน่อยนะ

เย็นๆแล้ว ว่าจะกลับเข้าเมือง ไปดูหอคอยบรรหารกันสักหน่อย ไหนๆมาถึงถิ่นแล้วนี่ หอคอยที่นี่ดูอลังการเหมือนกันนะ ค่าเข้าชม 40 บาท

หอคอยบรรหาร

น้ำพุ บริเวณก่อนขึ้นหอคอย

บรรยากาศสบายๆ

ขึ้นลิฟท์ไป มีทั้งหมด 4 ชั้น เดินดูรอบๆหอคอย เหมือนได้ดูรอบๆเมือง มีบริการกล้องส่องทางไกล แต่ต้องหยอดเงิน 10 บาท พวกเราไม่มีใครใช้บริการสักคน

มุมจากชั้น 4

เอ๋ ทำท่าไปอย่างนั้นแหละ ไม่ได้หยอดเงินซะหน่อย

เดินดูได้ 2 รอบ ก็กลับลงมาชั้น 3 มีของที่ระลึกขาย lunar ซื้อ postcard มา 1 ใบ เอ๋กะโต้งซื้อใบไผ่นกหวีด เป่าแล้วเหมือนเสียงนกร้อง

อีกมุม ของด้านล่าง

หมีน้อย คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว

ออกจากหอคอย ก็ประมาณ 6 โมงเย็น หาร้านอาหารกินกันดีกว่า หลังจากสอบถาม bug แนะนำร้าน บัวเงิน,นพรัตน์ แล้วก็ลองถามกับคุณลุงเฝ้าสวนแนะนำร้าน กุ๊กโอชา แล้วก็ออกเดินทาง

กว่าจะหาร้านอาหารได้ แบบว่าไม่ค่อยแน่ใจเส้นทางที่ไปนัก เหมือนกับว่าเป็นเส้นทางที่ออกนอกเมืองยังไงยังงั้น สุดท้ายก็มาเจอร้านบัวเงิน ลงจากสะพานไผ่ขวาง ตามที่คนแถวนั้นแนะนำ

ลังเลใจอยู่ แบบว่า ไม่เห็นมีลูกค้ามาใช้บริการเลย ดูมันร้างๆชอบกล หรือว่ายังไม่ค่ำ คนยังน้อยอยู่ แต่ก็อ่ะนะ แต่ละคนเริ่มหิวกันแล้ว ก็ต้องลองดู

ให้พนักงานแนะนำอาหาร สรุปรวมๆหลายๆอย่างก็ถือว่า OK ค่ะ ไม่ผิดหวัง ราคาไม่แพงด้วย เสียอย่างเดียว ยุงชุมไปหน่อย

กว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบๆ 4 ทุ่ม ทริปวันเดียวคราวนี้ ให้ 4 ดาวครึ่งค่ะ

Monday, April 16, 2007

ขอบคุณถ้าเทพเจ้าแห่งการท่องเที่ยวจะเป็นใจ

หยุดสงกรานต์หลายวัน เพิ่งไปเที่ยวมาแค่วันเดียว อย่าดีกว่า วันนี้วันหยุดวันสุดท้ายแล้ว ออกไปเดินเที่ยวดีกว่า

แต่ดูเหมือนวันนี้ โชคแห่งการท่องเที่ยวจะไม่ได้อยู่ที่ lunar ซะแล้ว เหตุการณ์มันเริ่มจาก...

นั่งรอรถจะไปอนุสาวรีย์ แต่ไหงวันนี้ ป้ายรถเมล์ถึงเหม็นซะขนาดนี้ ที่แท้ก็มีหมาตายอยู่ตัวหนึ่ง ส่งกลิ่นซะ อย่าให้บรรยายเลย

ถึงอนุสาวรีย์แล้ว ตัดสินใจว่า วันนี้จะไปเที่ยวแถว ชุมชนกุฎีจีน ย่านฝั่งธน แต่แหะ แหะ lunar ไปไม่เป็นอ่ะค่ะ ลองสอบถามกับ bug แล้ว ก็ยังไม่ได้ความ แย่จัง น่าจะหาข้อมูลมาให้ได้มากกว่านี้ ไปๆมาๆ หลังจากนั่งรถ 2-3 ต่อ ก็แล้ว สุดท้าย เปลี่ยนแผน ไปแถวๆ สามแพร่งดีกว่า

แต่มาวันนี้ ชุมชมสามแพร่ง ดูเหงาๆ ก็เพราะร้านค้าต่างๆ ปิดซะเกือบหมด ก็วันนี้ยังเป็นวันหยุดนี่นา เดินเที่ยวแบบเหงาๆ ไม่ได้ถ่ายรูปไรเลย

แวะหาไรกินแถวนี้ดีกว่า ก็เพราะได้ยินมาว่า แถวนี้ของกินอร่อย แต่ไหงตัดสินใจผิด ดันไปกินก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูที่ไม่อร่อยเอาซะเลย

งั้นเดินลัดเลาะไปร้านมนต์นมสดดีกว่า หากาแฟกิน

ปรากฏว่า ร้านปิด เฮ้อ ลืมอีกละเรา ทำไงดี ลองเสี่ยงดวง ไปชุมชนกุฎีจีนอีกทีดีกว่า เพราะลองสอบถามข้อมูลแล้วว่า น่าจะมีรถจากบริเวณนี้ไปได้

แต่ไหงพอขึ้นรถ กระเป๋ารถเมล์กลับบอกว่า อีกไกลเลยนะ พอรถวิ่งไปถึงพาต้าปิ่นเกล้า lunar ไม่แน่ใจก็เลยตัดสินใจลงดีกว่า ไว้หาข้อมูลให้พอก่อน (ป๊อดอ่ะค่ะ)

นั่งรถกลับมาแถวสนามหลวง วันนี้งานสงกรานต์สนามหลวง หมดไปแล้ว เลยไปเดินเที่ยวแถวท่าพระจันทร์ละกัน

เดินไปถึงท่าน้ำ อือม lunar เคยมาที่นี่ครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว ดูๆแล้วก็ตัดสินใจว่า จะลงเรือข้ามไปฝั่งนู้น ก็จะมีวัดระฆังให้ไปเที่ยวได้ แต่รู้สึกว่า จะต้องไปขึ้นที่ท่าเรือที่อื่น ไม่ใช่ที่นี่

เฮ้อ ชักเริ่มเหนื่อยแล้วซิ อือม..งั้นไปแวะกินโรตี มะตะบะที่ท่าพระอาทิตย์ละกัน

ปรากฎว่า ร้านปิดอีกแล้วครับท่าน ว๊า แย่จัง
ตกลงว่าวันนี้ไปเที่ยวไหนก็ไม่สำเร็จ สงสัยท่านเทพแห่งการท่องเที่ยว จะลาพักร้อนเที่ยวสงกรานต์ด้วยละมั้ง

Friday, April 13, 2007

กินเที่ยวสบายๆ@ระเบียงทะเล

วันหยุดสงกรานต์ 4 วันสบายๆปีนี้ไม่ได้มี plan ไปไหนไกล ไปหาอะไรกินอร่อยๆแถวบางปูละกัน

หลังจากตกลงกันอย่างพอเป็นพิธีว่า วันนี้จะไปกินอาหารทะเลแถวบางปู เจ้าถิ่น(น้องแอน)ก็เสนอร้าน ระเบียงทะเล ดูจาก web แล้วเป็นร้านที่ดูดีทีเดียว แต่ถ้าไปตอนเย็นๆบรรยากาศน่าจะดีกว่า แต่เอาน่า ไปกินตอนเที่ยงน่าจะสะดวกกว่า

หลังจากนัดแนะกันที่ร้านตอนเที่ยงเลยละกัน แต่ไหงไปๆมาๆ ดูท่าเหงียนจะไปช้าซักกะหน่อย ขนาดพวกเรา start ออกเดินทางไปถึงที่แวะกลางทางแล้ว เหงียนยังไม่ตื่นเลย พวกเราก็เลยเปลี่ยนแผน ไปเที่ยวฟาร์มจระเข้กันก่อนดีกว่า

วันนี้ อากาศค่อนข้างร้อน ขนาดหลายวันมาเนี่ย ฝนตกตลอดแล้วนะ แต่ก็ไหนๆมาแล้ว เข้าไปเที่ยวดีกว่า ราคาค่าบัตร 60 บาท มากันทั้งหมด 8 คน

ไม่ได้มานานมากแล้ว ฟาร์มจระเข้เนี่ย เหมือนเคยมาตอนเด็กๆ พวกเรามาถึง ก็มาดูจระเข้กันก่อนเลย ดูตั้งแต่ตัวกะเปี๊ยก (เหมือนตุ๊กแก) จนตัวใหญ่เบ้อเริ่ม

จระเข้ที่นี่ เยอะมากๆ (ก็เป็นฟาร์มนี่นา) แต่ละตัว ตัวใหญ่ๆทั้งนั้น นอนก่ายกันเต็มไปหมด มีนักท่องเที่ยวหลายๆคนให้อาหาร (จำพวกซี่โครงไก่)กับจระเข้ ดูตอนที่พวกมันแย่งกันกินแล้ว...

highlight ของที่นี่ก็คงจะเป็นการเดินไปบนสะพานไม้ ข้างล่างมีจระเข้เต็มไปหมด มี certificated ด้วยว่า ที่นี่มีจระเข้ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ด้วย

พวกเราอยู่ที่นี่ได้สักพัก ไม่ได้ดูการแสดงอย่างอื่นอีก ทั้งๆที่มีอีกหลายอย่าง เพราะแต่ละคนเริ่มหิวกันแล้ว หลังจากที่เจอแอนรออยู่ข้างนอก พวกเราก็ไปยังจุดมุ่งหมายของวันนี้ --> ระเบียงทะเล

ร้านนี้อยู่ตรง ไปถึงก็เจอเหงียนกับติรออยู่ก่อนแล้ว วันนี้พวกเราทั้งหมด 14 ชีวิตนั่งโต๊ะยาวอยู่ชั้น 2 ใกล้ระเบียงกันเลยทีเดียว

อาหารร้านนี้ lunar ว่าก็ธรรมดานะ ไม่ได้อร่อยมาก ราคาค่อนข้างแพง แต่แต่งร้านดูค่อนข้างหรู ห้องน้ำก็ใหญ่โต คือแต่ละห้องมีพื้นที่บริเวณกว้าง เข้าไปนั่งนอนได้เลย ก็ถือว่ามากินเอาบรรยากาศละกัน

ทริปต่อไปของพวกเรา ก็เพิ่งจะมาโหวตว่าจะไปไหนกันดี สรุปว่า ไปเมืองโบราณละกัน น้องๆหลายคนยังไม่เคยมา แต่สำหรับ lunar ไปมาแล้ว 2 รอบ

วันนี้มาเที่ยว ก็จะได้บรรยากาศสงกรานต์ สาดน้ำกันซะสนุกสนาน ที่เมืองโบราณนี่ต้องมาเที่ยว 1 วันเต็มๆถึงจะครบถ้วน แต่วันนี้ที่ไป คงได้แวะไม่กี่ที่ เน้นเอา highlight ก็มีตลาดโบราณ คุ้มขุนแผน พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท แล้วก็ตลาดน้ำ

ที่สุดท้าย ว่าจะไปบางปูดูนกซะหน่อย ไหนๆก็มาแล้ว วันนี้ บางปูคนแน่น รถเยอะมาก ไม่มีที่จอดรถ ต้องวนไป 1 รอบ สุดท้ายก็ต้องมาจอดข้างนอกอยู่ แต่ก็ยังดีที่นกนางแอ่นเยอะ

lunar ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปนกอ่ะค่ะ ถ่ายมาหลายครั้ง ก็ไม่ค่อยได้เห็นตัวนก เจ้าเบียร์ยืมกล้องไปถ่าย ก็เอาไปเลย เต็มที่เลยน้อง

หนุ่มๆแอบหนีไปเต๊ะตระกร้อกัน ท่าทางจะสนุก ไม่ยอมกลับแหะ เกือบทุ่มแล้ว นึกว่าจะกลับ ที่ไหนได้ ไปต่อข้าวต้มมื้อเย็น ได้ยินหลายๆคนบอกว่าไม่หิว

ข้าวต้มร้านสมพงษ์ อือม เห็นสั่งกันมาซะ นี่ขนาดไม่หิวนะเนี่ย อือม.. วันนี้ lunar กินเกินโควต้าซะแล้ว พรุ่งนี้ก็จะไปกินกับครอบครัวอีก หยุดหลายวันก็จะน้ำหนักขึ้นทุกที แล้วแผนการณ์ลดความอ้วนเนี่ยจะสำเร็จมั๊ยน้อ

Thursday, April 12, 2007

สงกรานต์@true tower : หนาวสั่น

วันนี้ทำงานวันสุดท้ายก่อนหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ 4 วัน

เมื่อวาน มีการรดน้ำดำหัวคุณประสงค์ ปีนี้กลับมาจัดที่ชั้น 22 ทุกปีก็จะไม่มีไรมาก หลังจากรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่แล้ว ต่างคนก็แยกย้ายกันกลับไปทำงาน

แต่ปีนี้นะซิ เจ้าปิ๋วกับนุช ท่าทางอยากกลับเป็นเด็กอีกครั้ง 2 คนนี้เป็นคนเริ่มเปิดศึก เที่ยวได้ไปสาดน้ำชาวบ้านไปทั่ว ทุกคนโดนกันทั่วถ้วนหน้า lunar เองก็โดนไปเยอะ ยิ่งตอนช่วงเย็นๆด้วยแล้ว เหมือนแต่ละคนเริ่มไม่ไว้ใจกัน ระวังหลังกันทั่วถ้วนหน้า

เจ้าเอ๋เองก็เอาแต่ทำงาน ไม่ยอมมาเล่น lunar ก็เลยสาดมันไปสักที สองที สรุปว่า ตอนเย็นกลับบ้านด้วยความหนาวสั่น ยิ่งอยู่ในห้องแอร์ด้วยแล้ว แถมปีนี้เนี่ย ฝนตกเกือบทุกวัน

แต่พอมาวันนี้ เช้ามา เอ๋มาพร้อมกับเสื้อลายดอก บอกว่าวันนี้พร้อมจะเล่นสงกรานต์แล้ว แต่ช่วงเช้าเนี่ยซิ surprise สุดๆ น้องๆนำทีมโดยแอน เอาน้ำใส่ขันโรยด้วยดอกมะลิ มารดน้ำดำหัวให้ lunar ทำเอาเรารู้สึกแก่ไปอีก 20 ปีทีเดียว

พอตอนบ่าย จริงๆเริ่มตั้งแต่กินข้าวเที่ยงกันแล้ว ก็เริ่มเล่นน้ำพอเป็นพิธี แต่ตอนก่อนกลับเนี่ยซิ เหมือนจะมีสงครามเกิดขึ้นอีกระลอก

เหมือนกับว่า พอคนหนึ่งเริ่ม คนที่เหลือก็ตามเป็นทิวแถว ตอนแรกก็เหมือนกับจะมีพวกเราไม่ทำร้ายกัน แต่ตอนหลังเนี่ยซิ แม้แต่พวกเดียวกันเอง ก็เริ่มระแวะละ

เจ้าเอ๋เนี่ยซิ น่าเกลียดสุดๆ ไปกอด notebook คุณนพพร บอกว่า "อย่าเข้ามานะ เรามีตัวประกัน" ในขณะที่ตัวมันเอง ก็เที่ยวฉีดน้ำคนอื่นไปทั่ว สุดท้ายก็เจอพวกเราแทคทีม จัดการมันซะ เปียกไปทั้งตัว

lunar เองก็โดน เหมือนกับว่า พอมีใครสักคนพูดว่า จัดการคนนั้นกัน แต่ละคนก็จะกรูกันเข้าไปจัดการซะงั้น

หนุกหนานกันใหญ่ สงสารก็แต่ป้าเนี่ยแหละ 2-3 วันนี้คงต้องเช็ดพื้น ถูพื้นวันละหลายรอบ

สงกรานต์ปีนี้ เหมือนกลับมาเป็นเด็กอีกครั้ง

Saturday, April 07, 2007

สวนสราญรมย์ : ขอบคุณถ้าฟ้าฝนจะเป็นใจ

หยุดหลายวัน ตั้งแต่วันพฤหัส ไปเชงเม้งที่สระบุรี เมื่อวานวันจักรี วันนี้ก็เบื่อๆ ออกไปเดินเที่ยวดีกว่า

ตัดสินใจอยู่นาน ว่าจะไปเที่ยวสวนสราญรมย์ ดีหรือเปล่า เพราะได้ยินประชาสัมพันธ์มาได้ช่วงหนึ่งแล้วว่า ที่นี่จะมีการจัดงานแบบ วัฒนธรรมไทย 4 ภาค จะจัดไปจนถึงช่วงสงกรานต์ สุดท้ายก็ตัดสินใจไป

เดินทางไปจนถึงอนุสาวรีย์ ฝนก็ทำท่าว่าจะตกซะแล้ว นั่งรถไปหาข้าวกินแถวมาบุญครองละกัน

ไปถึงมาบุญครอง ฝนตกหนัก โอ้.. lunar เปียกไปทั้งตัว

หลังจากจัดการกับ อิจิบังราเมน กับ เซเวนเซ่น 69 Mango แล้วก็ไปยัง สวนสราญรมย์

แต่เนื่องจาก lunar ยังไม่รู้จักว่าอยู่ตรงไหน ทำให้ต้องเดินเกือบรอบพระบรมมหาราชวัง อือม..ที่แท้ตรงนี้นี่เองที่เรียกสวนสราญรมย์ (เลยสนามหลวงไป ข้างๆพระบรมมหาราชวัง)

วันนี้ก็มีการจัดแสดงงานอย่างที่ประชาสัมพันธ์กัน แต่คนยังน้อยๆอยู่ คาดว่าคนจะทยอยมากันตอนเย็นๆ จะมีจัดเป็นซุ้มๆ สาธิตศิลปะต่างๆ อย่าง การทำขนม, วาดภาพ แล้วก็มีการแสดงดนตรีไทยๆ

lunar ถ่ายรูปบ้านทรงไทย 5 ภูมิภาค น่าจะเป็น highlight ของงานนี้
วันนี้เหงาๆ อาจจะด้วยบรรยากาศมันอึมครึม lunar ใช้เวลาที่นี่ไม่นานนัก

ขากลับ เหมือนแข่งกับฝนตก ว่า lunar จะกลับถึงบ้านก่อนหรือไม่ ปรากฏว่าเฉียดฉิว เปียกเล็กน้อย ก่อนเข้าบ้าน ก็ยังถือว่าฟ้าฝนยังเห็นใจอ่ะค่ะ
ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง

Wednesday, April 04, 2007

เต่าน้อยคอยรัก

เจ้าเต่าน้อยตัวนี้มาอยู่ที่บ้าน lunar ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ อีกไม่กี่วัน มันจะได้กลับบ้านแล้วอ่ะ

lunar ไม่ใช่เจ้าของเจ้าเต่าตัวนี้หรอก เต่าตัวนี้เป็นของเอ๋ มาฝากเลี้ยงไว้ก่อนไปญี่ปุ่น ตอนไปซื้อที่ jj ด้วยกันก็บอกแล้วนะ ว่าไว้กลับจากญี่ปุ่นค่อยซื้อไม่ดีกว่าเหรอ แต่เจ้าตัวอยากเลี้ยงนักเลี้ยงหนา ก่อนไปก็เอามาไว้ที่ office กะให้น้องๆเพื่อนๆช่วยกันเลี้ยง

ตอนซื้อมาก็มี 2 ตัว พวกเราช่วยกันตั้งชื่อว่า เจ้ารักเร่ กับ ยากูซ่า ดูจากลักษณะท่าทางของแต่ละตัว เจ้ารักเร่เนี่ย ขี้อาย ดูเงียบๆ ส่วนเจ้ายากูซ่าเนี่ย ก็ซ่าสุดๆ เดินไปเดินมา

แต่ไม่รู้ว่าเจ้ารักเร่จะเกิดอาการน้อยใจไรหรือเปล่า ที่เจ้านายดอดไปเที่ยวญี่ปุ่น ก็เลยชิงบ๊ายบายลาโลกไปซะก่อน เรื่องนี้มีคนสันนิษฐานไปต่างๆนานา อาทิเช่น เลี้ยงในห้องแอร์ (น้ำเย็นมากๆๆ เหมือนน้ำในตู้เย็น) , เปลี่ยนน้ำบ่อยเกินไป etc.

lunar สงสารเจ้ายากูซ่า กลัวว่าจะตามเจ้ารักเร่ไป ก็เลยเอากลับมาเลี้ยงที่บ้านดีกว่า มีเนื้อที่เยอะๆหน่อย มีคนดูแล ไม่งั้นเสาร์ อาทิตย์ลำบากแย่ ต้องอดอาหารอยู่บ่อยๆ

แรกๆมาอยู่ก็ เหนียมอาย ไม่ค่อยซ่า คงยังใหม่อยู่ ให้อาหารเต่าไป เม็ด สองเม็ด ก็ไม่ค่อยยอมกิน ต้องปล่อยให้อาหารยุ่ย น้ำเสียไปซะอีกเนี่ย

แต่พอเริ่มปรับสภาพได้ คราวนี้ละก็ กินๆๆๆ อึๆๆๆๆๆ lunar นอกจากให้อาหารเม็ดแล้ว ก็ยังให้ผักบุ้งเป็นอาหารเสริม ใบบัวไว้เผื่อเคี้ยวเล่นๆ

แต่ดูเหมือนเจ้ายากูซ่าจะ enjoy eating เดี๋ยวนี้มื้อหนึ่งๆ ให้ไป 4-5 เม็ดก็ไม่พอ ใส่อาหารไปปุ๊บ กินอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนมันจะไม่เคี้ยวเลยด้วยซ้ำ กลืนอย่างเดียว

ผลจากการมาอยู่เกือบ 2 เดือน ปรากฎว่า จากเต่าน้อยสีเขียว ร่างกายมันก็เริ่มเปลี่ยนแปลง ตัวอ้วนจัง สีก็ออกเขียวเหลือง แถมกินเก่ง เจออาหารรีบวิ่งเข้าใส่

นอกจากนี้มันชอบเล่นซ่อนแอบ เวลาไม่มีคนมา มันก็มักออกมายืนรับลม บนเศษอิฐ เวลามีคนเดินมา มันก็รีบกระโดดตุ๋มลงน้ำหลบอยู่ใต้ใบบัวทันที

อ่ะนะ เจ้ายากูซ่า summer ของเจ้ากำลังหมดแล้ว เตรียมกลับไปหาพ่อได้แล้ว เดี๋ยวจะบอกพ่อของเจ้าให้หาเพื่อนให้แทนเจ้ารักเร่ จะได้ไม่เหงา

Sunday, April 01, 2007

3 years : Telecomasia --> True

วันนี้นอกจากจะเป็นวัน April Fool Day (เมษาหน้าโง่) แล้ว วันนี้ยังเป็นวันครบรอบ 3 ปีของการเปลี่ยนชื่อจาก Telecomasia เป็น true

ครั้งแรกที่ได้ยินว่า บริษัทจะเปลี่ยนชื่อเป็น true ก็ยังงงว่า คิดชื่อได้ไง ส่วนใหญ่แล้วชื่อบริษัทมักจะเป็นคำนาม บ่งบอกลักษณะธุรกิจ หรือไม่ก็เป็นชื่อเจ้าของบริษัท แต่นี่คำนี้เป็น adj. ไม่น่าจะนำมาตั้งชื่อบริษัทได้

แต่ก็มารู้ภายหลังว่า ด้วยความที่เป็น adj. เนี่ยแหละ จึงสามารถนำไปผสมกับคำอื่นให้มีความหมายที่ดีได้

ที่เห็นๆเลยก็คือการเปลี่ยนชื่อบริษัทในเครือหลายบริษัทหรือการตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ๆ ก็จะมีคำว่า true นำหน้าเช่น

Orange --> True Move
UBC --> True Vision
True Money
True Touch
True Coffee

ก็ต้องรอดูกันต่อไป อนาคตของ true (ส่วนหนึ่งอนาคตของเรา) จะขยับขยายเคลื่อนต่อไปอย่างไร