Tuesday, November 28, 2006

ท่าดีทีเหลวซะแล้ว

วันนี้ lunar ไปสัมภาษณ์... อ๊าอ้า ไม่ได้สัมภาษณ์งานหรอกนะ ไปสัมภาษณ์ชิงทุน ASBR ของ AOTS เป็นทุนรัฐบาลของญี่ปุ่น ไปศึกษาเกี่ยวกับ IT ที่เมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น ประมาณ 7 สัปดาห์ ช่วงเดือนกุมภา,มีนา ปีหน้า

จริงๆก็เพิ่งรู้ข่าวเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว แล้วก็ต้องรีบส่งใบสมัครไปภายในวันพฤหัส ซึ่งต้องกรอกเอกสารหลายแผ่น รวมทั้งเขียน essay 1 แผ่น แต่นั้นก็ไม่เท่าไร ที่สำคัญคือใบรับรองแพทย์ ซึ่งก็ต้องตรวจหลายอย่างด้วยกัน ดูๆแล้วก็น่าจะหลายตังค์ เมื่อวันเสาร์ก็เลยลองโทรไปถามที่โรงพยาบาลพญาไท1 ได้ความว่า ค่าใช้จ่ายประมาณ 3000 บาท โอ๊ะโอ แพงจัง lunar ก็เลยตัดสินใจว่า ยังไม่ตรวจละกัน ไปสัมภาษณ์ก่อน เผื่อไม่ได้ไป ก็เสียตังค์ฟรีนะซิ

จริงๆแล้ว ก่อนหน้านี้ ก็ลองแยบๆกับหมอที่ประจำอยู่ทีตึก TRUE ว่าจะให้ช่วยเซ็นต์ใบรับรองแพทย์ให้ได้หรือไม่ โดย lunar เอาผลการตรวจร่างกายประจำปีที่เพิ่งตรวจไปเมื่อเดือนกันยายนไปให้คุณหมอดูด้วย แต่คุณหมอก็ไม่ยอมเซ็นต์ เพราะมีอีกหลายรายการที่ยังไม่ได้ตรวจ คงไม่อยากเซ็นต์ให้สุ่มสี่สุ่มห้า คุณหมอให้เหตุผลอีกอย่างก็คือว่า ผลตรวจส่วนใหญ่จะใช้ได้ภายใน 1 เดือน ถ้าเกินกว่านั้น จะไม่ยอมรับ

เมื่อวันเสาร์ ก็ลองโทรไปถามที่ศูนย์การแพทย์อินเตอร์เมด ที่ที่ตรวจร่างกายประจำปี ว่าถ้าอยากให้ช่วยเซ็นต์ใบรับรองจะได้หรือไม่ ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ให้ติดต่อไปอีกทีวันจันทร์ ส่วนวันอาทิตย์ ที่ศูนย์ปิดทำการ ก็เลยทำให้ตัดสินใจว่า งั้นยังไม่ไปตรวจละกัน

ผลปรากฏว่า วันนี้ไปถึงเนคเทค 9 โมงตรง มีคนมารอสัมภาษณ์อยู่แล้ว 6 คน (นึกว่ามาเป็นคนแรกซะอีก) นั่งรอสักพัก เจ้าหน้าที่เดินมาแจ้งว่า ถ้าใครยังไม่มีผลตรวจร่างกาย จะไม่ให้สอบสัมภาษณ์ โอ้..อะไรกันเนี่ย

ยังโชคดีที่ใกล้ๆกับเนคเทค มีโรงพยาบาลพญาไท1 ก็ลองไปสอบถามดู ปรากฏว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 1500 บาท ใช้เวลาตรวจไม่นาน แต่ต้องใช้เวลารอผลด้วย ก็เลยบอกเจ้าหน้าที่ว่า ต้องการด่วน กำลังจะเอาไปสัมภาษณ์ ทางเจ้าบอกว่า งั้นจะตรวจแล้วให้คุณหมอกรอกข้อมูลที่ตรวจได้ก่อน แล้วเอาสำเนาไปสัมภาษณ์ บ่ายๆค่อยมารับเอกสารจริง

ค่าใช้จ่าย 1500 บาท ก็ถือว่า OK อ่ะ ถ้าเป็น 3000 บาท คงต้องคิดหนัก เพราะหากไม่ตรวจ ทุกอย่างที่นั่งทำมา ก็เป็นศูนย์นะซิ คิดดังนั้น ก็เลยทำให้ตัดสินใจได้

ปรากฏว่า เนื่องจากเป็นผู้สมัครที่เอกสารไม่พร้อม ทำให้คิวสัมภาษณ์ถูกเลื่อนไปอยู่ท้ายๆเลยอ่ะค่ะ กว่าจะได้สัมภาษณ์ก็เกือบเที่ยงละ โดดงานมาครึ่งวันแล้วนะเนี่ย

ผลปรากฏว่า อือ อือ ทางคณะกรรมการ เขาให้แนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษสัก 2 นาที lunar พูดไม่ค่อยออกเลยค่ะ พูดไม่รู้เรื่อง รู้ตัวเลย อือ อือ เศร้าจัง พูดแนะนำยังไม่จบ คณะกรรมการคงทนไม่ไหว ก็เลยบอกให้พูดไทยละกัน (โอ้ คงคะแนนตกไปเยอะ ทำไม ท่าท่าดีทีเหลว อย่างนี้)

ใช้เวลาอีกไม่นาน เพราะเฉลี่ยแล้วแต่ละคนสัมภาษณ์แค่ 10 นาที หลังสัมภาษณ์เสร็จ สงสัยจะเสียตังค์ฟรีแล้วเรา ไม่เหมือนเอ๋อ่ะ รายนั้น ฟุดฟิดฟอไฟ (แหม ก็ได้พูดอยู่ทุกวัน) เอาเถอะ ถือว่า ให้โอกาสตัวเองลองดูแล้วกัน ได้ไม่ได้เป็นอีกเรื่อง อีกอย่าง ถ้าได้ไปเนี่ย หัวหน้าจะให้ไปหรือเปล่าเนี่ย งานสุมหัวอย่างนี้

ก็แค่คำปลอบใจ คนอกหัก อิอิ

Sunday, November 26, 2006

กว่าจะมาเป็น ตลาดดวงแก้ว

อีกไม่กี่วัน หมู่บ้านของ lunar ก็จะมีตลาดเป็นของตัวเองแล้ว

อาจจะนึกแปลกใจ ก็อีแค่ตลาดสด ก็แหม นับจากวันที่มาอยู่ที่บ้านดวงแก้ว จนวันนี้ก็ 10 ปีกว่าแล้วอ่ะค่ะ ด้วยความที่ย้ายบ้านจากในเมือง มาเป็นคนชนบทกะเขา ห่างไกลจากความเจริญมาโขทีเดียว

แรกๆตอนมาอยู่ ใช้เวลานานมากอ่ะค่ะ กว่าจะปรับตัวได้ ก็เมื่อก่อน เดินออกจากบ้านไปประมาณ 100 กว่าเมตร ก็ถึงตลาดสดแล้ว สะดวกสบายเสียนี่กระไร แต่พอย้ายมาอยู่ที่นี่ ตลาดสดที่ใกล้ที่สุด ก็ต้องขับรถไปประมาณ 5-6 กิโล

แรกๆ ตอนที่ยังไม่มีตลาดสด ตลาดนัด ก็มีรถกระบะขายของเข้ามาที่หมู่บ้านเรื่อยเลยอ่ะค่ะ ก็นับว่ายังดี เพราะบางครั้งจะได้ซื้อกับข้าว ของสดเล็กๆน้อยๆโดยไม่ต้องไปตลาด

แต่อย่างว่า รถกระบะบางคันก็มาเช้ามากๆๆ มาวันไหนไม่มา มาวันเสาร์ อาทิตย์ก็มี ทำให้วันเสาร์ อาทิตย์แทนที่จะได้นอนตื่นสายซะหน่อย ก็ไม่สามารถทำได้ ถ้า lunar นอนๆอยู่ประมาณ 6 โมงเช้าจะมีเสียงประมาณนี้

รถคันที่ 1 : ข้าวสาร จ๊ะ ข้าวสาร
รถคันที่ 2 : กับข้าว จ้า กับข้าว
รถคันที่ 3 : หมูสด ปลาสด ของสดๆทั้งนั้นจ้า
รถคันที่ 4 : ของหวาน ผลไม้ เงาะ ทุเรียน ก็มีนะจ๊ะ ออกมาดูมาชมก่อนจ๊ะ
รถคันที่ 5 : หอยลาย จ๊ะ หอยลายตัวโตๆๆ อ้วนๆ 3 โล...
:
สลับกับแม่ค้าหาบปลาทูมาขาย
แม่ค้า : ปลาทูนึ่ง จ้า ปลาทูจากแม่กลองจ้า
อะไรประมาณนี้ เฮ้อ.. คนจะนอน

ผ่านไปสักประมาณ 1 ปี ก็เริ่มมีตลาดนัด มีทุกวันพุธ ยังจำกันได้มั๊ยอ่ะ ตอนช่วงหนึ่ง กรุงเทพ จะห้ามขายของทุกวันพุธ แต่ที่นี่กลับมีตลาดนัดวันพุธเสียนี่

ผ่านไปอีกช่วงหนึ่ง ก็เริ่มเพิ่มวันอีกวัน คือวันเสาร์ แล้วต่อๆมา ก็กลายเป็นมีตลาดนัดทุกวัน

หมู่บ้านของ lunar เป็นหมู่บ้านเดียวในละแวกนี้ที่มีตลาดนัด อันนี้ข้อมูลจากแท็กซี่อ่ะค่ะ แหมฟังแล้วน่าภูมิใจอยู่นะ 555

และแล้ว วันนี้ ก็จะมีตลาดสดแล้ว ไม่แน่ใจว่า ผู้ใดมาลงทุน ปรับเปลี่ยนสถานที่ใหม่หมด ก่อสร้างอาคาร มีร้านค้าเยอะแยะ มีศูนย์อาหาร ที่จอดรถ จะเปิดยิ่งใหญ่วันที่ 1-5 ธันวา นี้ ฉลองตลาดใหม่ด้วยการแสดง ร้องเพลง ในตอนกลางคืน พร้อมกับมีการจับฉลากของรางวัล เป็นตู้เย็น โทรทัศน์ ด้วยอ่ะ

หมู่บ้านเราพัดทะนาแย้ววว....

Saturday, November 25, 2006

Cleaning Day

หลังจากการตะลอนเมื่อวาน วันนี้ก็ปวารณาตัวเองอยู่บ้านละกัน เปิด notebook ขึ้นมาดู TV (กิจกรรมปรกติ) ระบบก็ฟ้องว่า "Low Space"

อันที่จริงมันก็ฟ้องมาตั้งนานแล้วอ่ะ แต่ก็ปล่อยๆมันไปก่อน เอาล่ะ ไหนๆวันนี้ก็ไม่ได้ไปไหนแล้ว จัดการเคลียร์ไฟล์ต่างๆที่ไม่ได้ใช้ดีกว่า

ค่อยๆนั่งไล่ไปทีละ folder โอ้มากมายเสียจริง เนื้อที่ตั้ง 40 GB ก็ค่อยๆลบไปเรื่อยๆ ไอ้ที่เมื่อก่อนเก็บนักเก็บหนา เก็บไม่เป็นระเบียบเนี่ย วันนี้ถึงได้รู้แล้วอ่ะ

หลังจากทำการเคลียร์ drive C เสร็จบวกกับการทำ compress ไฟล์ทั้ง drive ก็ได้เนื้อที่คืนมาได้จำนวนหนึ่ง อย่ากระนั้นเลย ทำ defragment ด้วยดีกว่า

อือม ตั้งแต่การ format คราวที่แล้วถึงได้รู้ว่า ไม่เคยทำ defrag เลยละมั้ง หลังจากการ analyze ถึงได้ขึ้นแถบแดงทั้งนั้น (แถบแดง คือ ไฟล์ที่เกิด defrag) ก็ OK งั้น จัดการเลยละกัน

ช่วงระหว่างตั้งแต่ทำ compress จนถึง defrag นั้น ใช้เวลานานมากเลยอ่ะค่ะ lunar ไม่รู้จะทำไรดี ก็เลยจัดแจงจัดข้าวของต่างๆที่รกแสนรก อยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงาน, ตู้โชว์

ผลปรากฏว่า วันนี้ทิ้งของไปตั้งเยอะ ทั้งสลิปบัตรเครดิตเอย ทั้งๆที่เก็บมาตลอด ทุกใบ (ไม่รู้ว่าจะเก็บทำไม), เศษกระดาษต่างๆ ข้าวของที่ไม่ได้ใช้ นอกจากทิ้งของไปเยอะแล้ว ยังได้เจอของต่างๆที่คิดว่าหายไปแล้ว เช่นตุ้มหู หรือสร้อยต่างๆที่ลืมไปนานแล้วว่าเคยมีกะเค้าด้วย

ส่วนตู้โชว์ก็ไม่มีของประดับสวยๆโชว์หรอกค่ะ ส่วนใหญ่เป็นที่เก็บพวกของชำร่วยงานแต่งงาน ของที่ระลึกเวลาไปเที่ยวที่ต่างๆซะมากกว่า ค้นๆพวกที่ไม่อยากเก็บแล้ว เผื่อไปบริจาคในวันเด็กดีกว่า

หลังจากจัดการกับข้าวของไปได้สักพัก เริ่มมึนอ่ะค่ะ กลับมาที่ notebook ต่อดีกว่า ก็จัดการกับอีก drive เสร็จ ก็คิดว่าจะย้ายรูปต่างๆไปไว้ที่เครื่อง desktop ดีกว่า จะได้ทำการ write ลง CD ไปทีเดียว

แต่เมื่อเริ่มจะทำปฏิบัติการดังกล่าว ก็พบปัญหาเดียวกับเครื่อง notebook นั่นคือเรื่องของ diskspace ไม่พอ ดังนั้น อย่างแรกที่ต้องทำ ก็คือสะสางซะก่อน (ส. แรกในบรรดา 5 ส.เลยนะเนี่ย)

ค่อยๆไล่ไปทีละ folder ไฟล์ไหนเก่าแก่เหลือเกิน ก็ลบๆๆๆ ย้ายไปๆมาๆ จัดเป็นกลุ่มๆ กลุ่ม MP3, รูป, Ebook, หนัง etc. แต่ถึงแม้ว่า จะลบไปเยอะ แต่เนื้อที่ก็ลดลงไปไม่มากเท่าไร

Compress ไฟล์แล้วก็ defrag อีกครั้ง ก็พอจะได้เนื้อที่คืนมาจำนวนหนึ่ง นี่ยังไม่ได้เอารูปจาก notebook ถ่ายมาใส่ desktop เลย ก็หมดเวลาไปวันนึงซะแล้ว พร้อมกับความมึนตึบ

ผลจากการจัดการไฟล์ในวันนี้ ทำใหlunar ไปค้นเจอ forward mail น่ารักๆฉบับหนึ่ง ที่ lunar ชอบ เลยเอามาฝากกัน











Friday, November 24, 2006

หาตังค์กินขนม

วันนี้ lunar ลาหยุดพักร้อนหนึ่งวัน ยังกลุ้มอยู่เนี่ย เหลือวันลาพักร้อนอีกเพียบ จะใช้หมดทันสิ้นปีอ่ะเปล่า ไม่ใช่ว่าตลอดปีที่ผ่านมาจะขยันไรมากมายนักหรอก แต่หาโอกาสหยุดไม่ค่อยได้ อีกอย่างหยุดแล้วก็ไม่รู้จะไปไหน ก็เลยไม่ค่อยได้ลาพักร้อน ตอนแรกตั้งใจว่า เดือนหน้า จะใช้วันลาพักร้อนให้หมด แต่ๆๆๆ เดือนธันวาคม outsource จะมาเพียบเลย งานก็ต้องดำเนินต่อไป ท่าทางจะลายากซะแล้ว

เมื่อเช้าแปลกแหะ ฝนตก กลางๆ ไม่ถึงกับหนักมาก แต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนแบบนี้ สงสัยเป็นฝนหลงฤดู ทำให้ชั่งใจอยู่นานว่าจะออกจากบ้านดีหรือเปล่าน๊า แต่วันหยุดอย่างนี้ ไม่อยากอยู่บ้านเลย อีกอย่างตั้งใจอยากไปเยาวราช ไปทำธุรกรรมทางด้านเงินๆทองๆ อิอิ

อือม.. ก็แบบว่า ตัดสินใจว่า จะขายทองที่ซื้อมาตั้งแต่ต้นปี พอได้กำไรนิดหน่อย ไม่อยากโลภอีกล่ะ ไอ้ตอนที่ราคามันพุ่งเอ๊า พุ่งเอา ก็ดันไม่ยอมขาย มัวแต่เชื่อนักวิเคราะห์อยู่นั่นแหละ ตอนนี้ ขาดทุนกำไรไปโขเหมือนกัน แต่ก็ยังดีนะ ที่ไม่ขาดทุน ก็อย่างที่ อ.สุวรรณ บอกอ่ะว่า กำไรมากน้อยไม่สำคัญ สำคัญที่ต้องไม่ขาดทุน

การซื้อขายทองเนี่ย ทำได้ง่ายจริงๆ สภาพคล่องสูงเหมือนที่อาจารย์ว่าจริงๆ ถ้าเป็นสินค้าอย่างอื่น อยากขายแต่ไม่มีคนซื้อ แย่จัง แต่สำหรับทองคำ ไปที่ร้านทอง บอกว่าจะขายทอง ไม่เกิน 5 นาที ได้เงินแล้ว

หลังจากได้กำไรมานิดหน่อย พอเป็นค่าขนม มื้อกลางวันนี้ต้องกินหรูที่สุด นั่นคือ บะหมี่เกี๊ยว แหะ แหะ ไม่ใช่ว่าจะงกหรอกนะ คือ lunar ไม่รู้ว่าจะกินไร ตอนนั้นบ่าย 3 ครึ่งแล้ว ยังไม่ได้กินข้าวกลางวันเลย นึกได้แต่ร้านบะหมี่เกี๊ยว ตรงตลาดเก่า ก็เลยตรงดิ่งไปกินทันที

อือม บะหมี่ร้านนี้ราคาแพงเหมือนกัน ชามเล็กๆบะหมี่นิดหน่อย เกี๊ยวกุ้ง 2 อัน ราคา 40 บาท ตอนแรกว่าจะกิน 2 ชาม เปลี่ยนใจ ไปหาอย่างอื่นกินต่อดีกว่า

บ่ายแก่ๆแบบนี้ ก็ต้องกาแฟเอี๊ยะแซ (อีกล่ะ) วันนี้มาร้านเก่าดั้งเดิม แต่วันนี้ไม่ค่อย work อ่ะค่ะ เพราะคนเต็มร้าน แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ อายุเฉลี่ยก็ 55 ขึ้นแน่เลย แถมวันนี้ควันบุหรี่โขมงไปทั้งร้าน

อันที่จริง จุดประสงค์ที่มาเยาวราชวันนี้อีกอย่างก็คือ จะมาเดินที่สำเพ็ง บอกตามตรง lunar ยังไม่เคยมาเดินสำเพ็งเลยอ่ะค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นคนกรุงเทพฯได้ไงเนี่ย ถ้าพอจะจำได้ จะว่าไม่เคยมาก็ไม่น่าจะใช่ อาจจะเคยมาครั้งหนึ่ง นานมากๆแล้ว ตอนเรียนมัธยมปลาย แต่อาจจำผิดก็ได้นะ

วันนี้มาเดินเที่ยว เดินเข้าเกือบทุกร้าน สินค้าเยอะดี ทั้งพวกเครื่องประดับ ของขวัญ ของที่ระลึก ตุ๊กตา กระเป๋า สารพัด เยอะแยะละลานตาไปหมด วันนี้เหมือนมาสำรวจ ที่ lunar สนใจก็พวก Kitty ทั้งหลาย เคยเห็นขายที่ Central เหมือนๆกัน แต่ราคาต่างกันเยอะเลย

วันนี้ได้ลองมองๆดูของที่จะซื้อสำหรับปีใหม่ด้วย เห็นสินค้าหลายๆอย่างทำเป็นรูปหมู เป็นหมูดำขาว เหมือนเป็น collection ของปีนี้ ยังไงยังงั้น ที่น่าสนใจเล็งๆไว้ ก็จะเป็นปากกาพวงกุญแจรูปเจ้าหมูดำขาวเนี่ยแหละ เสียดาย วันนี้ไม่ได้เอากล้องถ่ายรูปไป เลยไม่มีรูปมาฝาก

วันนี้เดินอย่างเดียวจริงๆ ก็สนุกดี แม้จะไม่ได้ซื้อไรเป็นชิ้นเป็นอัน ขากลับ บังเอิญเห็น วัสดุแกนกลางที่ใช้ทำตุ้มหู ก็เลยซื้อมา 1 ชุด 50 บาท แบบว่าจะมาประกอบกับ TAT ที่ทำไว้ จะได้ตุ้มหูเป็นรูปเป็นร่างซะที

กลับจากเยาวราช ยังไม่ตรงดิ่งกลับบ้านทันที ต้องไปหาข้าวเย็นกินก่อน เพราะบอกที่บ้านไว้แล้วว่าจะไม่กลับไปกินข้าวเย็น ไม่รู้ว่าจะไปไหนดี ไปแถว Central World แล้วกัน ทั้งๆที่ ศุกร์ที่แล้วก็เพิ่งไปมานี่นา

ไปเดินเที่ยวที่ BigC ได้สักพัก ยืนอ่านหนังสือที่ร้านหนังสือไปพลางๆ

อ่านหนังสือ --> กิจกรรมที่เคยชื่นชอบเป็นอย่างมาก แต่ได้ห่างหายจากปัจจุบันไปประมาณ 2 ปี

แต่สักพัก lunar เหมือนจะหมดแรง แบบว่า ง่วงๆ หมู่นี้เป็นไรก็ไม่รู้ ง่วงนอนตลอดเวลา ก็เลยว่าจะหาไรกินแล้วกลับดีกว่า เมียงมองอยากหาอะไรแซ่บๆกิน งั้น ยำแซ่บดีกว่า

วันนี้สั่งอาหารมาอย่างเดียว เซี่ยงไฮ้ต้มยำทะเล คือแบบว่าไม่ค่อยหิว ยังอิ่มจากขนมปัง 2 ชิ้นกับกาแฟเอี๊ยะแซอยู่เลย

ตอนขากลับเนี่ยซิ มีเรื่องตกใจเกิดขึ้นอย่างหนึ่ง ก็คือว่า lunar กำลังเดินข้ามทาง เป็นทางที่ให้รถจากห้างขับไปออกถนน lunar ก็ไม่เห็นนะว่ามีรถ ก็เลยเดินข้ามไป แต่เหมือนเห็นอะไรแว๊บๆพุ่งตรงขึ้นมาอย่างเร็ว แล้วเบรคอย่างแรง เป็นรถเก๋งคันหนึ่ง คนขับผู้ชายหน้าตาแบบกวนๆ (น่าตืบจริงๆ) แล้วก็ไม่ได้ทำท่าทางว่าจะขอโทษเลยนะเนี่ย lunar มองหน้าไป มันก็เฉย ทุเรศจริงๆ

วันนี้รอดชีวิตกลับมาบ้านได้ อือม สงสัยต้องไปทำบุญบ้างแล้วล่ะ

Saturday, November 18, 2006

รำลึกถึงงานรับปริญญา(อีกครั้ง)

เช้าวันนี้ lunar ตื่นแต่เช้าทั้งๆที่เป็นวันเสาร์ เพราะมีงานรับปริญญาของเจ้าแอน น้องที่ office รับที่ไบเทค บางนา แต่ก็ยังดีนะที่รับตอนบ่าย ทำให้มีเวลาในช่วงเช้าให้ถ่ายรูปกัน แต่ถึงแม้อย่างนั้นก็เหอะ ด้วยความที่ว่า บ้านของ lunar อยู่คนละทิศละทางกับบางนา ทำให้ต้องตื่นแต่ไก่โห่

นัดกะเอ๋ที่ lotus อ่อนนุช แล้วนั่ง taxi ไปด้วยกัน วันนี้ผิดคาดแหะ เนื่องจากคิดว่าจะมีคนมากมาย รถติดมากๆ ไรทำนองเนี้ย แต่ปรากฏว่า คนไม่มากเท่าที่ควร รถก็ไม่ค่อยติด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร

ที่นี่ lunar เคยมาแค่ครั้งเดียว ตอนมางาน Photo Fair มาถึงหาแอนไม่ยาก แต่เจอน้องฝนกับโต้งกำลังแอ็คชั่นถ่ายรูปอยู่ แต่ไหงเหงียนยังไม่มา ทั้งๆที่บ้านอยู่แถวนี้

ตอนแรกชั่งใจอยู่ว่าจะซื้อดอกไม้ ตุ๊กตา ให้ดีเปล่าน๊า หรือว่าจะพาไปเลี้ยงฉลอง หลังจากปรึกษากับเอ๋แล้วก็คิดว่าไว้พาไปกินดีกว่า คิดว่าวันนี้ต้องมีดอกไม้เต็มมือไปหมดแน่

แต่เอ๋เห็นมาลัยมงกุฏดอกไม้ ก็เลยคิดว่า ต้องไม่มีใครซื้อให้แอนแน่เลย ก็เลยตัดสินใจซื้อไป ปรากฏว่า มีคนซื้อมาให้แอนซะแล้ว แป่ววววว...

อือม.. นานแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้มางานรับปริญญา เห็นวันนี้ อดนึกถึงวันที่เรารับไม่ได้ แต่ของ lunar จะดูอบอุ่นกว่านี้นะ เพราะยังไงซะก็รับที่มหาลัยที่เรียนมา ทั้งปริญญาตรีและโท ยิ่งตอนรับที่เกษตร เพื่อนๆเยอะมาก ได้ถ่ายรูปกับเพื่อนเกือบครบคน (เพื่อนรุ่นเดียวกันมีตั้งเกือบๆ 300 คน) แล้วสถานที่ก็คุ้นเคย ได้ถ่ายรูปมีฉากหลังเป็นสถานที่ต่างๆที่ได้ร่ำเรียน ทั้งสุข ทั้งทุกข์(ตอนสอบ) ทั้งเฮฮา หนุกหนาน

วันนี้ดูแปลกๆ นอกจากพวกเรากับญาติๆแล้ว ดูเหมือนว่า ไม่มีใครอีก ไม่เห็นมีเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาถ่ายรูป อือม..แปลกอ่ะ

พวกเราอยู่กันนานเหมือนกัน แดดร้อนมากๆๆๆ รอจน 10 โมงครึ่งแล้ว เหงียนก็ยังไม่มา โทรไปตาม ได้ความว่า มาถึงแล้วแต่อยู่กับญาติเพราะรับปริญญาเหมือนกัน กว่าจะเจอกันได้ ก็แทบจะนาทีสุดท้ายแล้ว เหงียนมาพร้อมกับช่อดอกไม้หวานเหมือนช่อดอกไม้ของเจ้าสาว

ถ่ายรูปกันสักพัก lunar ก็เลยปิ๊งค์ไอเดีย ให้โต้งถือดอกไม้ของเหงียน แล้วคุกเข่าแสดงท่าขอความรักต่อแอน ถ่ายรูปเป็นหลักฐาน ปรากฏว่า สนุกสนานกันมาก อีกรูปก็ให้เหงียนทำท่าเหมือนชี้นิ้วว่าโต้ง เฮ้อ คนคิดก็หนุกดี ไม่ได้ทำเอง แต่ปรากฏว่า ทุกคนก็สนุกกันใหญ่

เสร็จจากงานแอน แวะไปกิน MK ที่เซ็นทรัลบางนา สั่งกันมาเพียบเลย หลังจากอิ่มพุงกาง ก็แยกย้ายกันไป ฝนกับโต้งไปเรียนภาษาจีนกันต่อ lunar จะไปหาหมอ (แบบว่า ผิวหนังที่ มือเท้า มันลอกๆอ่ะค่ะ) ที่พญาไท 1 เอ๋รับอาสาจะไปด้วย

ปรากฏว่า หมอปรึกษากับ lunar เรื่องผิวหนังมือเท้า แป๊บเดียวเอง ก็แค่บอกว่าแพ้ เท่านั้น แต่ที่เหลือเนี่ยซิ กลายเป็นเรื่องผิวหน้า
แบบว่า สนใจจะยิงเลเซอร์ ที่เป็นกระ มั๊ย ทั้งหน้าราคา 5000 บาท อือม.. ใจจริง ก็อยากรักษามาตั้งนานแล้วอ่ะ แต่ก็กลัวเรื่องผลข้างเคียงของการยิงเลเซอร์ แต่ถ้าจะยิง ต้องไปที่โรงพยาบาลนนทเวช ที่นี่ไม่มีเครื่องมือยิงกระ(ลึก)

วันนี้ต้องจ่ายตังค์เพิ่มอีกเกือบ 300 บาท แพงจัง ทั้งๆที่ใช้บัตรอยุธยาอลิอันซ์ไปแล้ว 800 บาท อือม.. แล้วนี่ 5000 ค่ายิงเลเซอร์มันจะไหวเหรอ ไม่น่าจะใช่เลย

กลับจากหาหมอ ยังมีแรงไปเดินเยาวราช ทั้งๆที่เหนื่อยเหมือนกัน เหนื่อยเพราะอากาศมันร้อนซะมากกว่า ไปเยาวราชเพราะเอ๋จะไปซื้อแบตเตอรี่ของมอเตอร์ไซด์แถวคลองถม lunar ก็เลยขอแวะกินกาแฟเอี๊ยะแซ เพิ่มพลังซะหน่อย วันนี้กลับบ้านแบบว่า หมดแรงจริงๆ

Friday, November 17, 2006

Central World Plaza : สุดไฮโซ

วันนี้เลิกงานต้องกลับบ้านคนเดียวอ่ะ เย็นวันศุกร์อย่างนี้ ยังไม่อยากตรงกลับบ้านเลย ไปเดินเล่นหาข้าวเย็นกินก่อนดีกว่า

ชั่งใจอยู่ว่าจะเดินห้างแถวๆออฟฟิค ก็คือ โรบินสัน ดีมั๊ย จะได้กลับบ้านสะดวก แต่วันนี้อยากไปแถวราชประสงค์ดีกว่า ชอบแถวนั้นนะยิ่งตอนปีใหม่ บริเวณแยกราชประสงค์จะประดับไฟสวยมาก แต่ระยะหลัง 2-3 ปีนี้ไม่ค่อยได้ไปแถวนั้น

ไปแวะกินข้าวที่บิ๊กซี กะว่าจะไปกินสเต็กฮันเตอร์ แต่ปรากฎว่า ไม่มีแล้ว อือม ไม่ได้มานานก็แบบนี้ ก็เลยกินอาหารญี่ปุ่น แบบว่า ข้าวปลาซาบะย่างซีอิ๊ว เป็นร้านเปิดใหม่ชื่อ Yayoi ราคากันเอง 99 บาท

ก่อนที่จะเข้ามาที่บิ๊กซี เห็น Central World Plaza มีคนจำนวนมาก ดูจากภายนอก รู้ได้เลยว่าปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปมาก ดูจากภายนอก เห็นเป็นกระจกตรงฝั่งบริเวณหน้าห้าง ช่วงนี้คงเป็นเทศกาลเบียร์ คนกินเบียร์กันเยอะเลย

กินข้าวเสร็จ ก็เลยไปเดินเที่ยวย่อยอาหารซะหน่อย แต่อือม.. Central World วันนี้ต่างจาก World Trade ในวันก่อน lunar เข้าไปดูแล้วเราเหมือนกะโปโลเลยอ่ะ ข้างในวันนี้เนี่ย ตกแต่งซะหรูเริ่ด ไม่แพ้ เอ็มโพเรียมหรือพารากอน วันนี้ตรงกลางลาน จะจัดเป็น event การเปิดตัวสินค้าต่างๆ วันนี้เห็นมีเปิดตัว หนังสือ แล้วก็พวกแฟชั่น(มั้ง ไม่ค่อยแน่ใจ) เห็นแต่ละร้าน ตกแต่งแบบว่า สวยงามจริงๆ แบรนด์นอกทั้งน้านนน

ห้างร้านแบบเดิมๆที่เคยเห็น ก็ยังพอมีบ้าง แต่น้อยลงไปมาก lunar เลยรู้สึกเอ๋อๆยังไงไม่รู้ เห็นแต่ละคนที่มาเดินก็แต่งตัวซะเดิ้น ยิ่งคนที่มาร่วมงานเปิดตัวสินค้าด้วยแล้ว เริ่ดจริงๆ

สงสัยวันหน้า ถ้าจะมาที่นี่ ต้องขอเวลาแต่งตัวสักครึ่งวันก่อนแล้วกัน อิอิ..

Sunday, November 12, 2006

select * from mystamp order by year(date)

วันนี้ตอนแรกตั้งใจว่าจะออกไปเดินเที่ยวซะหน่อย แต่แล้วได้ยินมาว่า น้องปอนด์จะมาเที่ยวบ้าน ก็เลยอยู่บ้านรอรับละกัน ไม่ได้เจอกันเป็นเดือนแล้วนิ

แต่หลังจากบ่ายๆ น้องปอนด์กลับไปแล้ว ก็เลยดูๆว่าจะทำไรดีน๊า และแล้วก็เห็นว่า stamp ที่เก็บไว้จำนวนมาก สะสมมาตั้งนาน หลายปีมาแล้ว อือม..ขอนับก่อน สะสมตั้งแต่เด็ก สมัยนั้นฮิตกันมาก คือว่า มีมากแล้วก็รู้สึกเริ่มไม่อยากสะสมแล้วอ่ะ จะขายดีมั๊ยน๊า

เอามาดู มีตั้ง 4 เล่มใหญ่ๆ เป็น sheet 2 เล่ม stamp 2 เล่ม สะสมมาเรื่อย เคยมีหยุดสะสมไปพักหนึ่ง ประมาณปี 30 ที่ยังจำได้เพราะว่า ปีนั้นเป็นปีแรกที่กรมไปรษณีย์ออกแสตมป์ทอง ในหลวงครบ 5 รอบ ราคา 100 บาท ตอนนั้นยังเรียนหนังสืออยู่ ไม่มีตังค์ซื้อ ก็เลยขาดการสะสมไปช่วงหนึ่ง

ตอนประมาณกลางปี 39 ช่วงที่กำลังจะย้ายบ้าน มีอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ไม่ลืมเกี่ยวกับการซื้อแสตมป์ ก็คือว่าตอนนั้น กรมไปรษณีย์ออกแสตมป์ทองปีกาญจนาภิเษก ตอนนั้น lunar ทำงานแล้ว พอมีตังค์บ้าง อยากซื้อสะสม ช่วงที่แสตมป์ออกมา lunar ก็ย้ายบ้านพอดี แสตมป์ยังส่งไปที่บ้านเก่าอยู่ แม้ว่าจะมีการเซ็นต์ชื่อรับ แต่ก็ไม่รู้ว่าใครรับไป

lunar พยายามติดต่อกรมไปรษณีย์ เพราะไม่แน่ใจว่า ที่ยังไม่ส่งเนื่องจากการล่าช้าตรงจุดใด เขียนจดหมายไปที่กรมตั้งหลายครั้ง คือถ้าเป็นแสตมป์ชุดอื่น lunar ก็ตัดใจไม่เอาก็ได้ แต่นี่เป็นแสตมป์ทอง ราคาหน้าดวงก็ 100 บาท นอกจากนี้ยังมีอีกหลายชุดที่ออกในตอนนั้น

ยังดีนะที่ sheet ส่งมาตอนหลัง sheet ชุดนี้ราคา 1000 บาท แพงอ่ะ เพราะมีแค่แสตมป์ทองดวงเดียวตรงกลาง ดังนั้น ก็ได้ sheet ไป ส่วนตัวแสตมป์ก็ตัดใจ คงไม่ได้แล้ว Y_Y

พอจำได้ลางๆว่า กลับมาสะสมอีกทีก็ประมาณปี 40 ห่างไปหลายปี ช่วงนั้นก็พยายามหาเก็บแสตมป์ที่ไม่มี พร้อมกับบอกรับสมาชิกแสตมป์กับsheet เพราะเห็นว่า sheet ก็น่าสะสม สวยดี เป็นแผ่นๆ ลวดลายสวย ชอบอ่ะ

หลังจากนั้นก็สะสมมาเรื่อยๆ ไม่ได้ขาด ตอนหลังๆก็จำชุดแสตมป์ไม่ได้ล่ะ มันเยอะมากมายไปหมด

เคยเก็บแสตมป์ของประเทศอื่นด้วย ไปซื้อถึงถิ่นเลยนะ ตอนที่ไปยุโรปอ่ะ ก็พยายามซื้อแสตมป์ในราคาที่ส่งไปรษณีย์บัตรกลับประเทศไทยได้ จะได้เป็นข้อมูลว่า ถ้าต้องการส่งไปรษณียบัตรกลับเมืองไทย ต้องซื้อในราคาเท่าไร

มาวันนี้ จะเลิกสะสมซะแล้ว ตัดใจขายดีกว่า ยิ่งนานไป แสตมป์บางดวงด้านหลังเริ่มออกสีเหลืองๆ อาจเป็นเพราะว่า การเก็บแสตมป์ก็สำคัญนะ ต้องพยายาม เลี่ยงแสงแดดและความชื้น หากมีสีเหลือง ก็ไม่มีใครซื้อ ถึงซื้อก็ต้องขายในราคาถูกๆ

แต่จะขาย ก็ไม่ใช่ง่าย ก่อนอื่นต้องสืบราคาตลาดซะก่อน พยายามหาข้อมูลจากในเว็บแต่กว่าจะเจาะลึกแต่ละชุดได้ ก็เหนื่อยอ่ะค่ะ เพราะมีเยอะ ก็เลย อย่ากระนั้นเลย มาจัดแสตมป์ใหม่เรียงปีไปเลยดีกว่า เวลาเทียบกับข้อมูลในเว็บจะได้หาง่าย เพราะส่วนใหญ่ที่ขายกันในเว็บก็จะเรียงตามปี

ก่อนหน้านี้ ตอนที่ยังมีเวลาว่างมากมาย lunar ก็จะจัดแสตมป์โดยดูจากชุด เช่น ชุดสัตว์ป่า สัตว์น้ำ ชุดในหลวง วันเด็ก ปีใหม่ ศิลป etc. แต่ถ้าจะเอาทั้งหมดมากาง แล้วเรียงใหม่ ต้องใช้เวลาพอสมควร

วันนี้ตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงเย็นต่อด้วยค่ำ ก็ยังเรียงไม่เสร็จเลยค่ะ ต้องใช้แว่นขยายช่วยเพิ่มเติม เพราะแสตมป์บางชุดพิมพ์ปีที่ออก ตัวเล็กมาก ต้องเรียง เขียน label แล้วถึงได้รู้ว่า เก็บมาตั้งแต่ปี 1972 จนถึงปัจจุบัน แต่ช่วงปีแรกๆ ก็มีไม่กี่ชุดอ่ะค่ะ ปีหลังๆซิ มีทุกชุด

เอามานั่งจัดไปจัดมา ก็รู้สึกเสียดายเหมือนกัน อยู่กับเรามาตั้งนานนะ นานกว่ารู้จักเพื่อนหลายๆคนอีก ไม่รู้ว่าหลังจากจัดทั้งหมดเสร็จ ยังจะยืนยันความตั้งใจเดิมอยู่หรือเปล่า หรือว่าจะเก็บอยู่ในตู้ตามเดิม

ตัดสินใจยากจัง เอาเหรียญบาทมาโยนดีมั๊ยน๊า

Sunday, November 05, 2006

ลอยกระทง@สวนสันติชัยปราการ

ลอยกระทงปีนี้ ตรงกับวันอาทิตย์ อยากออกไปเดินเที่ยวเล่น อ่านจากข่าวประชาสัมพันธ์เห็นมีจัดงานหลายที่ กรุงเทพฯ เห็นมีจัดล่องเรือประดับไฟที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถเห็นได้หลายที่ ก็คิดว่าจะไปสวนสันติชัยปราการละกัน อยากกินโรตีมะตะบะ อร่อยๆ

ก่อนไปงานลอยกระทง แวะไปเที่ยวงาน ComMart ที่ศูนย์สิริกิตต์ วันนี้วันสุดท้ายแล้วอ่ะ มีใครบางคนอยากซื้อ Compact Flash ราคาลดลงมามากๆ ขนาด 2GB 50X ราคา 1620 บาท ส่วน lunar ไม่ได้ซื้ออะไร เพราะไม่รู้ว่าจะซื้อไรดี พวกอุปกรณ์ electronic พวกนี้อ่ะนะ ถ้าไม่ได้จำเป็นใช้ ก็ไม่ค่อยอยากซื้อเท่าไร เพราะราคาจะลดลงมาเร็วมาก ยิ่งพวกมือถือไรเนี่ย ฟังก์ชันเยอะๆ ก็ไม่ได้ใช้ ผ่านไปสัก 1 ปี ราคาแทบจะไม่เหลือเลยค่ะ

อ้อ อีกอย่างที่สังเกตุเห็นสำหรับ ComMart ปีนี้ ก็คือพวกเครื่องเล่น MP4 เห็นวางขายแบบผูกกับสายคล้องคอแล้วห้อยลงมาจากที่แขวน วางเรียงเป็นแนว บอกราคากับ spec เหมือนที่เซินเจิ้นเลยอ่ะ มีคนสนใจเยอะมาก บูทไหนขายเจ้า MP4 บูทนั้นมีคนตรึม แต่เจ้า MP4 เนี่ย ส่วนใหญ่จะเป็นของ noname ยังไม่มีพวก brand name ลงมาเล่น (สงสัย import มาจากจีน) lunar ดูๆแล้ว จอมันเล็กๆ แล้วจะดูหนังยังไงเนี่ย ตอนแรกเอ๋สนใจจะซื้อ แต่ lunar ว่ายังไม่ค่อยจำเป็นซะเท่าไร ในรถก็มีเพลงฟัง อยู่ออฟฟิคก็เปิดจาก notebook ละกัน

พอได้เวลาก็ไปสวนสันติดีกว่า ไปถึงก็เย็นๆละ (หมายถึงเวลาเย็น ไม่ใช่อากาศเย็นอ่ะ) ไปถึงเห็นบริเวณริมแม่น้ำ โอ้โฮ น้ำท่วมขึ้นมาสูงอ่ะ ท่วมสูงถึงบริเวณที่เป็นลานติดกับแม่น้ำ ก่อนนี้สามารถไปเดินเล่นได้ ตอนนี้ไม่สามารถแล้วค่ะ อือม.. แล้ววันนี้ จะลอยกระทงยังไงกันละเนี่ย


สักพัก คนก็เริ่มทะยอยกันมาเรื่อยๆ ไปกินโรตีมะตะบะดีกว่า เดี๋ยวคนเยอะ วันนี้สั่งไม่เยอะเพราะไปกันแค่ 2 คน อีกอย่างเพิ่งจะอิ่มจาก โออิชิ ราเมน กับ swensen 59 มา อร่อยดีนะ โรตีมะตะบะ พระอาทิตย์ เจ้านี้

เห็นช่อง 7 สีมาทำข่าว ปีนี้ เจ้าหน้าที่ ตำรวจ มาดูแลกวดขันเรื่องดอกไม้ไฟ ก็ดีอ่ะค่ะ ที่สวนสันติฯเนี่ย น่าแปลก คนที่มาเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นคนต่างชาติ ทั้งฝรั่ง จีน เกาหลี อินเดีย etc สงสัยไม่ค่อยเคยเห็น ส่วนคนไทยก็มี จำนวน สูสีกันนะ

ยิ่งดึกคนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ lunar นั่งรอแล้วรอเล่า เมื่อไหร่จะเริ่มล่องเรือกันซะที น้ำเริ่มลดลง คนก็เริ่มทะยอยลอยกระทงกันบ้างละ แต่ก็ไม่ค่อยมาก ส่วนใหญ่คงจะมาดูเรือกันมากกว่า เห็นมีลอยกระทงโคมไฟ เหมือนงานยี่เป็งที่เชียงใหม่ แต่มีแค่ 4-5 กระทงเอง

lunar รอจนถึงประมาณ 2 ทุ่มกว่า เกือบจะเลิกรอแล้ว เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มกี่โมง ก็ได้เห็นเรือค่อยๆทะยอยมา ส่วนใหญ่จะเน้นเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัว ค่อยๆล่องมาเรื่อยๆ ประมาณ 20 ลำ



lunar พยายามถ่ายรูป แต่ว่า การถ่ายรูปในยามค่ำคืนเป็นเรื่องยากมากๆ ถ้าไม่ใช่มืออาชีพจริงๆอย่างน้อยก็ต้องใช้ขาตั้งกล้อง ซึ่ง lunar เองก็ไม่ใช่ทั้ง 2 อย่าง รูปที่ถ่ายออกมาทั้งหมดก็เลย เบลอๆ ไม่ชัดซะกะรูป ว๊า แย่จัง

ลอยกระทงปีนี้ ได้เปลี่ยนบรรยากาศไปอีกแบบ ไม่ค่อยได้ออกมาตะลอนแบบนี้นานแล้ว อันที่จริงก็อยากไปเดินเล่นแถวภูเขาทอง อยากกลับไปเห็นบรรยากาศงานวัด ไว้ไปปีหน้าละกัน