Saturday, October 06, 2007

People Care@นครนายก(1) : วังตะไคร้

วันนี้ที่แผนกมีกิจกรรม "People Care" จริงๆแล้วเป็นความคิดของบริษัท ที่ให้แต่และหน่วยงานจัดกิจกรรมภายใน โดยเลือกมา 1 อย่างที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้พนักงานได้ร่วมกันทำกิจกรรมร่วมกัน หน่วยงานของ lunar หลังจากประชุมกันแล้ว ก็ว่าจะไปปล่อยปลากันที่นครนายก จริงๆแล้วก็หาโอกาสเที่ยวและพักผ่อนนั่นแหละ กิจกรรมนี้ ให้ชื่อกิ๊บเก๋ว่า "โครงการอนุรักษ์พันธุ์ปลาน้ำจืดคืนสู่ธรรมชาติ"

งานนี้ขับรถไปกันเอง ไปกันทั้งหมด 7 คัน มีพี่เทพ,คุณหนึ่ง,อ้วน,ตั้ม,เบียร์,เงี๊ยบ,วี ประมาณ 20 กว่าคน นัดเจอกันที่โลตัส คลอง4 เพื่อรวบรวมกำลังพลแล้วก็เริ่มเดินทางกันละ

สถานที่แรกที่จะไป ก็ไปบ้านพักกันก่อน งานนี้เราจะไปกันที่ "สวนหงษ์ การ์เด้นท์วิว รีสอร์ท" เห็นจากในรูปแล้ว น่าไปพักมากๆ

ด้านหน้าเรือนพัก

อีกมุมของเรือนพัก

ขับรถไปประมาณชั่วโมงเศษๆ ก็ถึง ระหว่างทางตอนแรกตัดสินใจกันว่าจะไปปล่อยปลากันเลยดีหรือเปล่า เพราะถุงปลาเกิดรั่วขึ้นมา ดีที่เห็นอ่ะนะ ไม่งั้นไม่เหลือปลาให้ปล่อยแน่เลย แต่หลังจากซ่อมแซมปิดรอยรั่วกันแล้ว ก็ตัดสินใจเข้ารที่พักกันก่อนดีกว่า

ไปถึงที่พัก โอ้โฮ ที่นี่ทำเป็นบ้านพัก น่าอยู่จริงๆอ่ะค่ะ บ้านทำเป็นบ้านเล่นระดับ แต่ละสัดส่วนสามารถนอนได้เลย แล้วก็มีห้องหลายห้องเป็นสัดเป็นส่วน สำหรับครอบครัว สามารถรองรับได้ประมาณ 30 คนอ่ะค่ะ

หลังจากเข้าบ้านพักเพื่อเก็บของแล้ว ก็เริ่มกิจกรรมไปปล่อยปลาซะที

มุมมองจากเขื่อน

พวกเราขับรถไปที่ "เขื่อนขุนด่านปราการชล" เนื่องจากจำนวนคนที่จะไปปล่อยปลามีเยอะ มีหลายคนปล่อยปลา อีกหลายคน(รวมทั้ง lunar) ไม่ได้ปล่อยปลา (เพราะมัวแต่เดินเล่นถ่ายรูป เลยเดินตามเขาไม่ทัน แหะแหะ)

แวะถ่ายรูปกลางทางกันซะหน่อย

ถ่ายรูปเป็นหลักฐาน

เอ้า โต้งกับตั้ม ช่วยกันหน่อยจ้า

เฮ้ กิจกรรมหลักเสร็จแล้ว

รู้ซะบ้าง ใครหัวหน้า ใครลูกน้อง

เย้ ได้ไปเที่ยวซะที

เสร็จจากกิจกรรมรอง เอ๊ย กิจกรรมหลักกันแล้ว ต่อไปก็จะไป วังตะไคร้ กันล่ะ

ที่นี่เก็บค่าเข้าชม ถ้ามากันเป็นคันรถ ก็เก็บคันละ 100 บาท พวกเราไปกัน 6 คัน ก็ 600 บาท (น้องวีเจ้าถิ่น ไปซื้อส้มตำเป็นอาหารกลางวัน)

วันนี้นักท่องเที่ยวเยอะมากอ่ะ เล่นน้ำกันเต็มไปหมด ลูกๆพี่เทพก็ทำท่าอยากเล่นน้ำ แต่พี่เทพบอกให้รอกินข้าวเที่ยงกันก่อน

พวกเราก็นั่งปูเสื่อ เอาไก่ที่ตั้มไปแวะซื้อระหว่างทางมานั่งแทะเล็มๆไปก่อน เพราะจะรอไก่ย่างส้มตำ หลังจากรอแล้วรอเล่า ชักท่าไม่ค่อยดี ดูเหมือนฝนกำลังจะตก

รอส้มตำ ไก่ย่าง

รอกันเกือบชั่วโมง ฝนตกแน่แล้ว พวกเราก็เลยตัดสินใจ กลับไปกินที่บ้านพักแล้วกัน โทรบอกวี ว่าไม่ต้องเข้ามาแล้วไปเจอที่บ้านพักกันเลย สรุปแล้วเสียตังค์ไป 600 บาทเข้ามา ไม่คุ้มเลยอ่ะ

พอเข้าบ้านพักแล้ว หลังจากที่จัดการส้มตำกันเสร็จสรรพ ดูเหมือนกิจกรรมที่เหลือน่าจะเป็นการโชว์การแสดงเป็นแม่ครัว พ่อครัว งานนี้ขอ bye อ่ะค่ะ แม่ครัวมีเยอะแล้ว เดี๋ยวช่วยย่างกุ้งให้แล้วกัน

สักบ่ายๆเย็นๆ น้องวีมากระซิบบอกว่า ไปเที่ยวน้ำตกนางรองกันมั๊ย ไปแป๊บเดียวเอง เดี๋ยวก็กลับมา อือม ไปก็ไป ไม่เคยไป นั่งอยู่ที่บ้านก็ไม่มีไรทำ อิอิ งั้นไป

งานนี้แบบว่า แอบๆไปกันอ่ะค่ะ ไปกัน 7 คน นั่งรถไปคันเดียว ที่น้ำตกนางรองเนี่ย น้ำไหลแรงมาก ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ ได้แต่ยืนถ่ายรูปบนสะพาน

น้ำตกนางรอง

ไหนๆก็แอบหนีเที่ยวแล้ว ถ่ายรูปหน่อย

ขากลับ ไปแวะที่เขื่อนอีกครั้ง แต่ขับรถไปใกล้ๆเขื่อน เมื่อเช้าไม่ได้มาตรงนี้อ่ะค่ะ ดูก็สวยดี ได้บรรยากาศยามเย็นไปอีกแบบ

เขื่อนขุนฯ ยามเย็น

กลับมาที่บ้านพัก คนอื่นๆเริ่มมาทำการปิ้งย่าง ทำกับข้าวกันชุลมุนตรงหน้าบ้าน พวกเราต้องแอบๆเข้าไป ทำเหมือนไม่มีไรเกิดขี้น แต่ไม่วาย เจ้าตั้มทักซะเสียงดัง

"นี่ๆ แอบไปเที่ยวกันมา ไม่ชวนกันบ้างเลย"
แฮะแฮะ ทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ รีบเข้าไปสวมรอยย่างกุ้งซะเลย

มื้อเย็นนี้ กับข้าวเยอะมาก มาจากหลากหลายฝีมือ ก็ ok อ่ะค่ะ แถมมีการเป่าเค้กวันเกิดของคนที่เกิดเดือนตุลานี้ เป็น blueberry cheese cake 2 ก้อน ฝีมือน้องนุ่น ตอนแรกมันก็น่ากินดีหรอก แต่ด้วยฝีมือการแต่งหน้าเค้กเพิ่มเติมของใครบางคน ซึ่งโป๊ะหน้าด้วย ปีโป้หลากสี ต่อด้วยการปักเทียนแล้ว มันทำให้หน้าตามันไกลจากคำว่า น่ากิน ไปหน่อย

เค้กวันเกิด น่ากินหรือป่าว

คืนนี้ lunar นอนกับน้องบีในห้องเล็กชั้นล่างสุด ห้องใหญ่เต็มซะล่ะ นอนไม่ค่อยหลับ เพราะห้องอบอ้าว (แอร์เสียซะเนี่ย)

0 Comments: