Tuesday, November 28, 2006

ท่าดีทีเหลวซะแล้ว

วันนี้ lunar ไปสัมภาษณ์... อ๊าอ้า ไม่ได้สัมภาษณ์งานหรอกนะ ไปสัมภาษณ์ชิงทุน ASBR ของ AOTS เป็นทุนรัฐบาลของญี่ปุ่น ไปศึกษาเกี่ยวกับ IT ที่เมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น ประมาณ 7 สัปดาห์ ช่วงเดือนกุมภา,มีนา ปีหน้า

จริงๆก็เพิ่งรู้ข่าวเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว แล้วก็ต้องรีบส่งใบสมัครไปภายในวันพฤหัส ซึ่งต้องกรอกเอกสารหลายแผ่น รวมทั้งเขียน essay 1 แผ่น แต่นั้นก็ไม่เท่าไร ที่สำคัญคือใบรับรองแพทย์ ซึ่งก็ต้องตรวจหลายอย่างด้วยกัน ดูๆแล้วก็น่าจะหลายตังค์ เมื่อวันเสาร์ก็เลยลองโทรไปถามที่โรงพยาบาลพญาไท1 ได้ความว่า ค่าใช้จ่ายประมาณ 3000 บาท โอ๊ะโอ แพงจัง lunar ก็เลยตัดสินใจว่า ยังไม่ตรวจละกัน ไปสัมภาษณ์ก่อน เผื่อไม่ได้ไป ก็เสียตังค์ฟรีนะซิ

จริงๆแล้ว ก่อนหน้านี้ ก็ลองแยบๆกับหมอที่ประจำอยู่ทีตึก TRUE ว่าจะให้ช่วยเซ็นต์ใบรับรองแพทย์ให้ได้หรือไม่ โดย lunar เอาผลการตรวจร่างกายประจำปีที่เพิ่งตรวจไปเมื่อเดือนกันยายนไปให้คุณหมอดูด้วย แต่คุณหมอก็ไม่ยอมเซ็นต์ เพราะมีอีกหลายรายการที่ยังไม่ได้ตรวจ คงไม่อยากเซ็นต์ให้สุ่มสี่สุ่มห้า คุณหมอให้เหตุผลอีกอย่างก็คือว่า ผลตรวจส่วนใหญ่จะใช้ได้ภายใน 1 เดือน ถ้าเกินกว่านั้น จะไม่ยอมรับ

เมื่อวันเสาร์ ก็ลองโทรไปถามที่ศูนย์การแพทย์อินเตอร์เมด ที่ที่ตรวจร่างกายประจำปี ว่าถ้าอยากให้ช่วยเซ็นต์ใบรับรองจะได้หรือไม่ ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ให้ติดต่อไปอีกทีวันจันทร์ ส่วนวันอาทิตย์ ที่ศูนย์ปิดทำการ ก็เลยทำให้ตัดสินใจว่า งั้นยังไม่ไปตรวจละกัน

ผลปรากฏว่า วันนี้ไปถึงเนคเทค 9 โมงตรง มีคนมารอสัมภาษณ์อยู่แล้ว 6 คน (นึกว่ามาเป็นคนแรกซะอีก) นั่งรอสักพัก เจ้าหน้าที่เดินมาแจ้งว่า ถ้าใครยังไม่มีผลตรวจร่างกาย จะไม่ให้สอบสัมภาษณ์ โอ้..อะไรกันเนี่ย

ยังโชคดีที่ใกล้ๆกับเนคเทค มีโรงพยาบาลพญาไท1 ก็ลองไปสอบถามดู ปรากฏว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 1500 บาท ใช้เวลาตรวจไม่นาน แต่ต้องใช้เวลารอผลด้วย ก็เลยบอกเจ้าหน้าที่ว่า ต้องการด่วน กำลังจะเอาไปสัมภาษณ์ ทางเจ้าบอกว่า งั้นจะตรวจแล้วให้คุณหมอกรอกข้อมูลที่ตรวจได้ก่อน แล้วเอาสำเนาไปสัมภาษณ์ บ่ายๆค่อยมารับเอกสารจริง

ค่าใช้จ่าย 1500 บาท ก็ถือว่า OK อ่ะ ถ้าเป็น 3000 บาท คงต้องคิดหนัก เพราะหากไม่ตรวจ ทุกอย่างที่นั่งทำมา ก็เป็นศูนย์นะซิ คิดดังนั้น ก็เลยทำให้ตัดสินใจได้

ปรากฏว่า เนื่องจากเป็นผู้สมัครที่เอกสารไม่พร้อม ทำให้คิวสัมภาษณ์ถูกเลื่อนไปอยู่ท้ายๆเลยอ่ะค่ะ กว่าจะได้สัมภาษณ์ก็เกือบเที่ยงละ โดดงานมาครึ่งวันแล้วนะเนี่ย

ผลปรากฏว่า อือ อือ ทางคณะกรรมการ เขาให้แนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษสัก 2 นาที lunar พูดไม่ค่อยออกเลยค่ะ พูดไม่รู้เรื่อง รู้ตัวเลย อือ อือ เศร้าจัง พูดแนะนำยังไม่จบ คณะกรรมการคงทนไม่ไหว ก็เลยบอกให้พูดไทยละกัน (โอ้ คงคะแนนตกไปเยอะ ทำไม ท่าท่าดีทีเหลว อย่างนี้)

ใช้เวลาอีกไม่นาน เพราะเฉลี่ยแล้วแต่ละคนสัมภาษณ์แค่ 10 นาที หลังสัมภาษณ์เสร็จ สงสัยจะเสียตังค์ฟรีแล้วเรา ไม่เหมือนเอ๋อ่ะ รายนั้น ฟุดฟิดฟอไฟ (แหม ก็ได้พูดอยู่ทุกวัน) เอาเถอะ ถือว่า ให้โอกาสตัวเองลองดูแล้วกัน ได้ไม่ได้เป็นอีกเรื่อง อีกอย่าง ถ้าได้ไปเนี่ย หัวหน้าจะให้ไปหรือเปล่าเนี่ย งานสุมหัวอย่างนี้

ก็แค่คำปลอบใจ คนอกหัก อิอิ

0 Comments: