Saturday, December 02, 2006

พระนารายณ์ราชนิเวศน์ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์


เช้าวันนี้ lunar จะได้ไปเที่ยวพระนารายณ์ราชนิเวศน์,ทุ่งดอกทานตะวัน,เขื่อนป่าสัก ที่ลพบุรี เป็นโครงการ ไปวันเดียวเที่ยวด้วยกัน กับที่บริษัท อันที่จริงแล้ว โครงการนี้มีมาหลายครั้งแล้ว มีทั้งไปเมืองกาญจน์ ตลาดโรงเกลือ แล้วก็อีกหลายๆแห่ง แต่ lunar ยังไม่เคยได้ไปสักครั้ง

คราวนี้สบโอกาสได้ไปล่ะ แต่ก็เกือบจะไม่ได้ไปเหมือนกัน เพราะกว่าจะนึกได้ กว่าจะจอง ที่นั่งก็เต็มไปแล้ว จนวันเกือบสุดท้าย ได้ยินว่า เหลือที่นั่งอีก 3 ที่ สุดท้ายก็ทำให้ได้ไป

รถออก 6.30 น. หน้าตึก true แต่ lunar ไปแต่เช้าก่อน 6 โมงเสียอีก ไปถึงก็รีบขึ้นตึก ไปเอามือถือที่ลืมทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อวานทั้ง 2 เครื่องก่อน

เมื่อวานรีบไปหน่อย กลับบ้านทิ้งมือถือไว้ที่โต๊ะ ให้เอ๋ช่วยโทรบอกเหงียนให้ช่วยเก็บไว้ด้วย เช้านี้จะไปเอามือถือ แต่เรื่องไม่ง่ายอย่างที่คิด

เห็นกุญแจโต๊ะถูกซ่อนหลบๆไว้ใต้ฐานแก้วน้ำ อือม.. ลองเปิดโต๊ะดู ไม่เจอแหะ ลองหาให้ละเอียดอีกครั้ง ก็ไม่เจอ

แต่มองเห็นกุญแจอีกดอก วางอยู่ อ้อ! สงสัยเหงียนจะเก็บไว้ที่อีกโต๊ะ เอาไปไขโต๊ะเหงียน ก็ไม่ใช่ ลองอีกที โต๊ะเจ้าติ อ้อใช่แหะ

หาแล้วหาอีก ค้นจนหมด ไหงไม่เจออ่ะ ลองโทรเข้ามือถือของตัวเอง ก็ไม่ติด แสดงว่าปิดเครื่องไปแน่ๆ เอ..เหงียนเอาไปซ่อนไว้ที่ไหนนะ หรือว่าเข้าใจผิด เอากลับบ้านไป

เริ่มหงุดหงิดขึ้นมานิดๆ หาให้ละเอียดอีกที ก็ไม่เจอ โทรไปหาเอ๋ว่า เมื่อคืนคุยกันว่ายังไง เอ๋บอกว่า ก็ให้เก็บหลบๆไว้ก็เท่านั้นเอง

ลองมาดูที่โต๊ะเจ้าติอีกที สายตาก็มองไปเห็นกุญแจอีกดอก อ้อ.. เป็นอย่างนี้นี่เอง ลองไปไขโต๊ะของเหงียน และแล้ว ก็ใช่จริงๆด้วย มือถือของ lunar ทั้ง 2 เครื่อง นอนแอ่งแม้งอยู่

ไอ้ที่หงุดหงิดตอนแรก ก็เลยนึกขำๆขึ้นมา น้องนะน้อง เล่นซ่อนซะ 3 ชั้นอย่างนี้ นี่ถ้าไม่ใช่อัจฉริยะอย่าง lunar เนี่ย ไขปริศนาไม่ออกนะเนี่ย (อิอิ)

กลับมาเรื่องวันนี้ดีกว่า กว่าจะเริ่มเดินทางได้ก็ 7 โมงแล้วอ่ะ รอสมาชิกครบ เฮ้อ ขาดคนเดียว แต่ lunar ก็เฉยๆอ่ะค่ะ เดียวนี้ใจเย็นขึ้นเยอะแล้วนะ เขาคงติดธุระเร่งด่วน แต่ไงก็ได้ไปแล้วววว..

วันนี้ส่วนใหญ่แล้วที่ไปเที่ยวเนี่ย ผู้หญิงทั้งน้านนน.. ทั้งคันรถมีผู้ชายไม่กี่คน บางคนก็ไปกับครอบครัว ใกล้วันพ่อ ดูอบอุ่นดีนะ

ใช้บริการรถของซาฟารีเวิลด์ มีไกด์ด้วยอ่ะค่ะ ชื่อต้น คุณไกด์บอกว่าเมื่อคืนเพิ่งกลับจากงานราชพฤกษ์ที่เชียงใหม่ตอนตี 3 โอ้โฮ อึดจริงๆ

คุณไกด์คนนี้ เก่งจริงๆเลยอ่ะค่ะ เรื่องราวประวัติศาสตร์ยุคไหนๆ แกเล่าเป็นเรื่องเป็นราว ชื่อสมัยราชวงศ์ ชื่อคนสำคัญๆ อะไรหลายๆอย่าง แกเล่าไม่มีติดขัด มีการเล่นเกม แจกรางวัลกันในรถด้วย แต่คำถามเนี่ย ก็เป็นคำถามเกี่ยวกับเมืองไทย ประวัติศาสตร์ต่างๆ โอ้ใครจะตอบได้เนี่ย

มีอยู่ข้อหนึ่ง ให้โทรศัพท์เข้ามือถือคุณไกด์เอง โดยเบอร์โทรศัพท์แต่ละหลัก คุณต้นจะถามคำถามแล้วให้หาคำตอบ คำตอบจะเป็นตัวเลขแล้วก็กดตอบไปเรื่อยๆ มีตั้งหลายข้ออ่ะค่ะ คำถามก็เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เหมือนเคย lunar ตอบไม่ถูกทุกข้อ ผลก็คือสุดท้ายลองโทรเข้าไป คนที่รับไม่ใช่ไกด์แต่กลับเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เลยต้องขอโทษเขาบอกว่าโทรผิด อิอิ ไม่รู้ว่าโทรไปปลุกเขาหรือเปล่าเนี่ย

บนรถ มีเปิดโปงลางซะออน เดอะโชว์มัสโกออน แต่ lunar ไม่ค่อยได้ดู ง่วงนอนก็เลยขอบายไป

และแล้วก็มาถึงพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ไกด์ต้นบอกว่า พวกเราจะใช้เวลากับที่นี่ ชั่วโมงกว่าๆ จะเที่ยวแบบเจาะลึก ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 400 ปีที่แล้ว อือม.. lunar คิดว่าเวลาแค่นั้นจะพอเหรอ


สิบสองท้องพระคลัง



อย่างที่บอกอ่ะค่ะ ไกด์ต้นเนี่ย ดูท่าจะเป็นนักประวัติศาสตร์ตัวยง ไปถึงตึก พระที่นั่ง ตรงไหนก็อธิบายเรื่อยไป แต่... lunar ไม่ได้ฟังเลยอ่ะค่ะ เพราะมัวแต่ถ่ายรูป ก็ที่นี่ยังไม่เคยมาอ่ะค่ะ สวยดีนะ อีกอย่าง นักท่องเที่ยวก็ไม่ค่อยเยอะ มีเด็กๆมาทัศนศึกษากันซะมากกว่า


บริเวณรอบกำแพงของวังจะมีการเจาะเป็นช่อง ตอนกลางคืนจะมีการจุดเทียนตรงช่องไฟเหล่านี้ นึกถึงภาพเมื่อ 400 ปีก่อนคงสวยงามมาก

พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท

เป็นที่เสด็จรับคณะราชฑูตต่างประเทศ พอดีได้ยินไกด์ต้นเล่าให้ฟังว่า ราชฑูตของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 มาเข้าเฝ้าที่แห่งนี้ พร้อมกับนำราชสาสน์มามอบให้ แต่ใช้กุศโลบาย ไม่ยื่นให้ถึงพระหัตถ์ของพระองค์ เพื่อให้พระองค์น้อมองค์ลงมารับพระราชสาสน์ เป็นการถวายความเคารพกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 14

สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
เดินจากพระที่นั่งดุสิตสวรรค์ มาที่พระที่นั่งพิมานมงกุฎ ก็จะมีการจัดแสดงหลักฐานโบราณวัตถุ ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ มีโครงกระดูก ภาชนะดินเผ่าเครื่องมือ เครื่องใช้ ชั้นบนจัดแสดงเครื่องใช้ส่วนหนึ่งของสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 สังเกตุเห็นว่า เตียงบรรทมของพระองค์มีขนาดเล็กมาก ไม่น่าเชื่อ มีกระดานชนวน, อุปกรณ์ดูดาว ที่นี่ไม่มีรูปมาฝากค่ะ เพราะเขาห้ามถ่ายรูป

ออกจากที่นี่ก็ 11 โมงกว่าแล้วค่ะ สถานที่ต่อไปคือศาลพระกาฬ ไปนมัสการเจ้าพ่อพระกาฬ ลิงเยอะแยะไปหมด ไกด์ต้นบอกว่า ลิงฝั่งนี้จะดุน้อยกว่าลิงฝั่งพระปรางค์สามยอด ทริปวันนี้พวกเราจะไม่ไปพระปรางค์สามยอด ถ้าจะถ่ายรูปให้ถ่ายจากฝั่งศาลพระกาฬ สาเหตุที่ลิงฝั่งนี้ดุน้อยกว่า น่าจะเป็นเพราะ ลิงฝั่งนี้มีอาหารมากกว่า เวลาที่มีการเลี้ยงโต๊ะจีนก็เลี้ยงกันที่ฝั่งนี้ ไกด์ต้นบอกว่า ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าเอากระเป๋าลงไป เพราะลิงจะเข้าใจว่ามีของกินในกระเป๋า เดี๋ยวโดนลิงวิ่งราวกระเป๋านะ

เที่ยงกว่าแล้ว ออกจากศาลพระกาฬ ก็ไปดูดอกทานตะวันกัน ดอกที่นี่ดอกค่อนข้างเล็กอ่ะค่ะ คอเริ่มตก ทุ่งที่พวกเราไปเที่ยว วันนี้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว หรือว่าช่วงวันหยุดยาว คนไปเที่ยวกันที่อื่น พวกเราอยู่ที่นี่ประมาณ 15 นาที ระดมถ่ายรูปกันใหญ่


บ่ายโมงแล้ว หลายคนหิวข้าว ไปแวะกินข้าวเที่ยงที่ ครัวป่าสัก ก่อนไปเที่ยวเขื่อน อาหารมื้อนี้ไม่ได้รวมอยู่ในรายการ ไปกินกะเอ๋ 2 คนสั่งอาหารมา 2 อย่าง ไกด์แนะนำว่าลพบุรีมีปลาเยอะ น่าจะสั่งอาหารปลา ก็เลยสั่งปลาทับทิมทอด กับ ต้มยำปลาคัง แต่ไหงราคาค่อนข้างแพง จานละ 150 บาท lunar ว่าแพงกว่ากรุงเทพอีกอ่ะ ทั้งๆที่มาถึงถิ่นแล้วนะ แต่ก็นะ ไม่ได้กินบ่อยๆ ที่นี่ก็คงขายได้แต่นักท่องเที่ยวเท่านั้น

ปลาทอดก็ถือว่าโอเค (ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหิวด้วยอ่ะเปล่า) แต่ต้มยำปลาคังเนี่ยแปลกๆ สรุปว่า ไม่ค่อย work แหะ กินข้าวเสร็จ ร้านนี้มีของแถมให้ด้วยค่ะ เป็นสินค้า OTOP ก้อนกลมๆ 5 ก้อน สงสัยว่าคือไร มันคือ ไม้ไล่หนู เอาไปวางไว้ตามจุดต่างๆเพื่อไล่หนู ไม่รู้ว่าทำด้วยอะไร (กลัวหนูจะแทะกินล่ะไม่ว่า)


ออกเดินทางไปเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เห็นมีร้านอาหารอีกเยอะแยะ (เอ..ทำไมไม่พาพวกเรามากินแถวนี้นะ สงสัย) ที่เขื่อนป่าสักเนี่ย lunar เคยมาแล้ว 2 ครั้ง แต่เดินทางมาด้วยรถไฟ ก็จะได้บรรยากาศตอนที่รถไฟวิ่งไปบนเหนือเขื่อน คราวนี้แม้จะไม่ได้บรรยากาศแบบนั้น แต่วันนี้ lunar ก็ได้นั่งรถวิ่งไปบนสันเขื่อน ค่าตั๋วคนละ 20 บาท มา 2 ครั้งยังไม่ได้มานั่งเลย

ก็ได้บรรยากาศลมเย็นๆ (แม้ว่าวันนี้อากาศจะร้อนมากๆ) ชมบรรยากาศเหนือเขื่อน รถวิ่งไปจนสุดสันเขื่อนแล้วก็วิ่งกลับ ก่อนไปมีคนมาถ่ายรูปพวกเราด้วยอ่ะ แบบว่าไปอัดลงกรอบรูป, จาน แต่ไม่ใช่มีเจ้าเดียวนะ วันนี้เห็นมีตั้ง 3-4 เจ้าแน่ะ lunar ก็ให้ถ่าย อยากถ่ายก็ถ่ายไป

กลับมาถึง ก็เห็นรูปตัวเอง อยู่ในกรอบ ราคา 99 บาท ตัดสินใจอยู่เหมือนกัน แต่แบบว่า รูปที่ถ่ายมา ดูอ้วนๆไงก็ไม่รู้ เลยไม่ได้ซื้ออ่ะค่ะ ไอ้วิธีการถ่ายรูปแล้วอัดขายแบบนี้ มันมีมานานมาก จำได้ตั้งแต่ไปเที่ยวภูเก็ต 10 กว่าปีที่แล้ว ตอนแรกคิดว่า จะมีใครซื้อเหรอ แต่ตอนที่ lunar ไปดูรูปตัวเอง ก็นะ อือม.. ถ้าไม่อ้วนละก็ ก็น่าซื้อเหมือนกัน อิอิ

จากเขื่อนป่าสัก ไปเที่ยวน้ำตกมวกเหล็กกันต่อ ไม่ได้เข้าไปลึกกันมากหรอกค่ะ ยังไม่ได้แตะน้ำเลย เหมือนแค่แวะถ่ายรูปกันนิดหน่อยเท่านั้นเอง

ส่วนสถานที่สุดท้ายก็ไปแวะ shopping ซื้อของฝากกลับกรุงเทพ lunar ซื้อข้าวเกรียบกับกะหรี่พั๊ฟ มาที่มวกเหล็กก็ต้องซื้อ กะหรี่พั๊ฟ 10 ลูก 50 บาท แถม 3 ลูก lunar เอาไส้แปลกๆ เผือก, องุ่น, สตรอเบอร์รี่, แคนตาลูป แต่ไหงกลับมาบ้าน มีแต่ ไส้สัปปะรด, เผือก, หมูหยอง ง่ะ

0 Comments: