Monday, November 05, 2007

LAO : Day 4 - หลวงพระบาง (3) - วัดเชียงทอง


เช้านี้ นัดกันตั้งแต่ตี 5 ว่าจะไปตักบาตรข้าวเหนียวกัน

เดินออกมาหน้าร้าน JO MA เห็นมีแม่ค้าพยายามจะขาย ข้าวเหนียวให้กับพวกเรา แต่อยากไปซื้อที่ตลาดมากกว่าอ่ะค่ะ

เดินมาเรื่อยๆที่ตลาดสด ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าจะมีขายเปล่า ลองสอบถามคนแถวนั้น ในที่สุดก็เจอร้านขายข้าวเหนียว

ซื้อกันคนละ 1 กิโล กิโลละ 6000 กีบ เจ้าเบียร์บอกว่า ไม่ตักบาตรนะ จะช่วยถ่ายรูปให้ละกัน แม่ค้าใส่ถุงก๊อปแก๊ปให้ พวกเราถามว่า มีกระติปให้ใส่หรือเปล่า แม่ค้าบอกว่าเมื่อก่อนก็เคยมีให้ใส่ แต่ลูกค้าใส่แล้วไม่เอามาคืนให้

พวกเราก็ไปรอๆแถวสี่แยก แม่ค้าแถวนั้นบอกว่าที่นี่แหละ พระเยอะแล้ว เพราะจะมีพระหลายวัดมาตักบาตรกันที่นี่ พวกแม่ค้าก็พยายามขายขนม พร้อมกับบอกว่ามีเสื่อให้ปูนั่งด้วย พวกเราก็เลยดูๆแล้ว อุดหนุนแม่ค้าหน่อยละกัน ชุดละ 5000 กีบ จะได้มีเสื่อไว้ปูนั่งด้วย

ข้าวเหนียวและขนม ตักบาตร

แต่ดูเหมือนรอกันตั้งนานแล้ว เกือบ 6 โมงแล้วเนี่ยยังไม่เห็นมีพระมาสักรูป แล้วก็ไม่เห็นมีชาวบ้านจะมาใส่บาตรกันเลย มีแต่พวกเรา 5-6 คนเนี่ย


นั่งรอสักพัก มีฝรั่งมาเดินๆเมียงมองพวกเราเหมือนกัน แล้วก็มาถ่ายรูปพวกเราด้วย อิอิ เผื่อเอารูปพวกเราไปเผยแพร่

กว่าพระจะมาก็ 6 โมงกว่าละ เดินมาเป็นทิวแถว
แต่พระจะค่อยๆมาทีละวัด จะมีเส้นทางเดินของแต่ละวัด จะไม่เดินทับเส้นกัน เวลาใส่บาตร ต้องจก(หยิบ)ข้าวเหนียวเป็นก้อนเล็กๆ แล้วใส่บาตรพระให้ทัน พระจะเดินเร็วมาก


ตอนแรก lunar ก็จกข้าวเหนียวก้อนเล็กๆ หลังๆกลัวข้าวเหนียวไม่หมด เลยจกก้อนใหญ่ซะเลย
พระเดินมาประมาณ 4-5 วัด บางวัด ก็ไม่เดินผ่านที่ที่พวกเรานั่งอยู่ จะไม่เหมือนที่เมืองไทยนะ ที่เมืองไทยถ้าพระเห็นคนมาบินฑบาตร จะเดินเข้ามาให้ใส่บาตร

lunar ใส่หมดพอดี มีนุ่นกับพี่แหม่ม ใส่ไม่หมดอ่ะ
เบียร์บอกว่า ถ่ายรูปไม่ค่อยทัน โดนบังซะหมด ว๊าแย่จัง

หมดจากการใส่บาตรก็ไปขึ้น พูสี ค่าเข้า คนละ 20000 กีบ
ทางขึ้น วัดพูสี

เดินขึ้นสูงเหมือนกันแหะ ไปถึงข้างบน มองลงมาเห็นเมืองทั้งเมือง วิวสวยดี




พระธาตุพูสี
เข้าไปในโบสถ์ ไปลองเสี่ยงเซียมซี ได้เบอร์ 10 แต่แหะแหะ ไม่สามารถอ่านคำทำนายได้


มีให้อธิฐานแล้วลองยกพระพุทธรูปด้วย เจ้าเบียร์เห็นว่ายกได้ฉิวเลย lunar ว่าจะลองอธิฐานบ้าง
ปรากฏว่ายกไม่ขึ้นเลยอ่ะค่ะ ลองอีกครั้งก็ยกไม่ขึ้น (แปลว่าไรเนี่ย)



ขอเล่นบ้าง

ลงจากพูสี ไปเดินแวะตลาดอีกครั้ง เนื่องจากเมื่อวานพี่แหม่มกับกุ้งยังไม่ได้มาเดินกัน
อาหารเช้าวันนี้ ตอนแรกว่าจะไปกิน ข้าวเปียกกัน ไปถึงที่ร้านปรากฏว่า ตอนเช้าไม่ขายข้าวเปียก ขายแต่ก๋วยเตี๋ยวเครื่องใน ก็เลยขอ bye ละกัน ไม่ถนัดกินเครื่องใน

สุดท้ายกลับมากินร้านเดิม วันนี้ พวกเราสั่งเฝอมากินกันคนละชาม อร่อยแล้วอ่ะ

กลับมาที่พัก นัดกันว่า เจอกันเที่ยงๆ ให้เอาของมารวมกันที่ห้อง lunar เพราะจะยุบเหลือห้องเดียวเท่านั้น
lunar อาบน้ำเสร็จแล้ว ไม่อยากอยู่ในห้องอ่ะค่ะ อยากออกไปเดินเที่ยวอีก ก็เลยชวนพี่ตุ่มไปเดินดู souvenir แต่แล้วก็ไม่มีไรน่าสนใจ

กลับมาที่พัก เจอพี่แหม่มกับกุ้งรออยู่แล้ว เลยไปตามเจ้าเบียร์กับนุ่น ปรากฏว่า 2 คนนั่นยังไม่อาบน้ำเลย
กว่าจะรวมพลกันได้ก็เกือบเที่ยงแล้ว วันนี้จะไปวัดเชียงทองกัน

เดินไปกินข้าวเที่ยงที่ร้านตำหนักลาว ร้านนี้หรูสุดแล้ว ตกลง trip นี้ได้กินหรูหลายมื้อทีเดียว
แต่ละคนสั่งเป็นจานๆมากิน lunar สั่งข้าวผัดไส้อั่ว แม้ว่าจะไม่มีในเมนู นึกว่าที่นี่เขาจะ adapt ได้ แต่ว่า เขาไม่ทำให้อ่ะ ถ้าไม่อยู่ในเมนู ก็เลยสั่ง ข้าวผัดกุ้ง แล้วสั่งไส้อั่วเป็นจานมากิน ไส้อั่วที่นี่อร่อยอ่ะค่ะ คล้ายแฮ่กึ้นบ้านเรา

อิอิ ลองส้มตำปลาร้าซะทีก็ดี ไหนๆก็มาแล้ว บ๋อยถามว่า จะเอาเป็นตัวๆหรือเปล่า จ๊าก ไม่ต้องอ่ะนะ แค่สั่งส้มตำปลาร้าเพราะต้องการแกล้งใครบางคนที่ไม่กินปลาร้าก็พอ

ปรากฏว่า สาวๆแต่ละคนกินส้มตำกันอร่อยซะ ยกเว้น หนุ่มคนเดียวของทีม

อิ่มแปล้กับมื้อกลางวันในราคา 245,000 กีบแล้ว ก็ไป วัดเชียงทอง กันต่อ
วัดเชียงทองนี้ได้ชื่อว่าเป็นวัดพระแก้ว สวยงามมากๆเลย เป็น highlight ของหลวงพระบางเลยทีเดียว ราคาเข้าชม 20,000 กีบ



เจ้าเบียร์กับมุมประตูวัด






ออกจากที่วัดเชียงทอง เกือบ 4 โมงเย็นแล้ว พวกเราต้องรีบทำเวลากันหน่อย เพราะหลายคนจะไปซื้อผ้าพันคอเป็นของฝาก (รวมทั้ง lunar ด้วยอ่ะค่ะ) แต่เราเล็งร้านไว้แล้วว่าจะซื้อร้านไหน ก็เลยรีบตรงดิ่งไปทันที (ยกเว้นพี่ตุ่ม ที่ขอตัวกลับที่พักก่อน)

lunar ซื้อผ้าพันคอให้แม่กับเจ๊ฮวงคนละผืน เลือกอยู่นานเพราะสวยหลายผืน เลือกเนื้อผ้าแบบดีๆให้แม่เลยนะเนี่ย ราคา 450 บาท แล้วซื้อฝากน้องฝนด้วย 1 ผืน

เสร็จสรรพ มาแวะตลาดม้งอีกนิด ขอซื้อกระเป๋าของฝากอีกซัก 4-5 ใบ พร้อมกับโปสการ์ดที่ stamp ตราหลวงพระบางพร้อมวันที่เป็นที่ระลึกละกัน

กลับถึงที่พัก คราวนี้ทุกคนมารวมอยู่ในห้องเดียวกัน แต่ละคนหามุมของตัวเก็บของกันใหญ่
เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง ก็เลยคิดว่าไปหาอาหารเย็นกินดีกว่า เพราะถ้าขึ้นรถแล้วคงได้นั่งยาวเป็นแน่

ใกล้สุดก็ร้าน JOMA เพราะใกล้ที่พักที่สุดแล้ว lunar สั่ง pizza ไก่ กับ expresso มากิน แต่กินไม่หมดแหะ

ได้ยินพี่ตุ่มเล่าว่า พนักงานที่ถาวรสุขถามว่า จะกลับไปเวียงจันทน์หรือเปล่า เจ้าของโรงแรมเนี่ยวันนี้ก็จะไปเวียงจันทน์ เขาไปบ่อยมาก สามารถนั่งรถแวนไปกับเขาได้
เสียดายจัง ไม่ได้ถามแต่แรก ก็เลยบอกไปว่า ซื้อทัวร์ไปแล้วอ่ะ

โบกมืออำลาหลวงพระบาง เตรียมตัวนั่งรถตียาว 9 ชั่วโมงกลับเวียงจันทน์
พอมาถึงท่ารถ เอ.. เจ้าหน้าที่บอกว่า รถคันนี้แหละที่จะไปเวียงจันทน์ มีคันเดียว
พวกเราก็เมียงมอง อือม.. เนี่ยเหรอ รถ VIP ดูมันโกโรโกโส ยังไงชอบกล

รถ VIP (เหรอเนี่ย)

สอบถามแล้วปรากฏว่า เนี่ยไม่ใช่ VIP แต่เป็นรถธรรมดา รถ VIP จะมีแค่รอบเช้า แล้วรถธรรมดาเนี่ย ราคา 100,000 กีบ โอ๊ย โดนลาวหลอกซะแล้ว เพราะซื้อตั๋วมาในราคา 115,000 กีบ
เอาซะแล้ว แล้วบนรถ เราจะเจอไรบ้างเนี่ย

เริ่มแต่แรกเลย แม้คุณจะมีตั๋วที่บอกหมายเลขที่นั่งก็ตามที แต่พอขึ้นไปปุ๊บ ก็จะมีป้าที่ไหนไม่รู้ นั่งที่ของเราอยู่ก่อนแล้ว บอกกี่ทีก็ไม่ยอมไปซะที ต้องให้คนท้องถิ่นช่วยพูดให้

ข้อสอง พอคนเริ่มนั่งกันเต็มทุกที่นั่งแล้ว จะมีที่นั่งเสริมทันที เป็นเก้าอี้พลาสติกวางเรียงอยู่ตรงกลางรถ (โอ๊ย ไอ้นวัตกรรมแบบนี้เนี่ย เคยเห็นในเมืองไทยเมื่อ 20 ปีที่แล้วนี่นา)

ข้อที่สาม พอรถออกไปได้สักพัก ปิดไฟมืดตื๋อ พร้อมกับเสียงเพลงที่ดังเหมือนอยู่ในผับอย่างไงอย่างงั้น (มันจะเปิดดังๆทำไมฟะ) แต่เนื้อเพลงเป็นเพลงลูกทุ่ง

ด้วยเหตุที่เสียงเพลงบรรเลงเนี่ยแหละ ทำให้ lunar ไม่สามารถหลับได้เลย เพราะพอเริ่มจะเคลิ้มๆหลับซักนิด เสียงเพลงก็ดังขึ้นมา กวนรูหูเยี่ยงนัก

สลับกับเส้นทางที่คดเคี้ยวเลี้ยวลด ซ้ายทีขวาที ใครหลับลงก็เก่งโคตรแล้ว หลับๆตื่นๆ ดูดาวไปละกัน

ข้อที่สี่ การบริการผู้โดยสาร หลังจากออกจากท่ารถมาประมาณ 2 ชั่วโมง มีแวะให้เข้าห้องน้ำกัน ตอนแรก ก็พยายามมองๆหาห้องน้ำอยู่ไหนหว่า แต่ที่ไหนได้ เห็นผู้หญิงประมาณ 3-4 คน นั่งเด็ดดอกไม้ข้างทางซะนี่

ข้อที่ห้า ระหว่างทางเนื่องจากหนทางคดเคี้ยวเลี้ยวลด อาจมีผู้โดยสารไม่ชินทาง เกิดอาเจียนขึ้นมา เด็กรถก็เลยถือถุงพลาสติกพยายามเดินแจกผู้โดยสาร พร้อมกับบอกว่า

“ถุงยางมั๊ยครับ”
เอามายื่นให้พี่แหม่ม พี่แหม่มบอกว่า
“ไม่ใช้ค่ะ”
ฮา เข้าไป

พอเที่ยงคืน ก็มีแวะให้กินข้าวเหมือนกัน คุ้นๆว่าร้านนี้เนี่ยมาแวะพักแล้วนี่นา ตอนระหว่างทางจากวังเวียงไปหลวงพระบางอ่ะ

0 Comments: