Thursday, July 17, 2008

ชุมชนกุฎีจีน


เมื่อวานเพิ่งกลับจากดู We Will Rock You วันนี้วันหยุดอาสาฬหบูชา แต่ไหนเลยเราจะอยู่แต่ในคอนโด ไปตระเวนเที่ยวดีกว่า

วันนี้ตั้งใจแล้วว่า จะไปเที่ยวที่ชุมชมกุฎีจีน หลังจากเคยตั้งใจไว้ว่าจะไปเมื่อปีที่แล้ว หาข้อมูลก็แล้ว วันนี้จะไม่พลาดแน่

นั่งรถสาย ปอ 529 จากหน้าบ้านตามข้อมูลของ ขสมก ที่ให้ไว้ จุดหมายปลายทางคือ โรงเรียนศึกษานารี รถวิ่งไปถึงสะพานพระปกเกล้า ลงป้ายแรกเลย ข้ามสะพานไป ก็เห็นแล้ว รร.ศึกษานารี

เห็นป้ายบอกทางไปวัดกัลยาฯ เดินเลี้ยวตามไป สอบถามคนแถวนั้นก็แน่นอน ตรงไปไม่ผิดแน่

เดินมาประมาณ 600 เมตร ก็เจอป้ายเลี้ยวไปโรงเรียนซางตาครูส ใช่แน่เลยมาไม่ผิด

เดินเข้าซอยมาอีกประมาณ 200 เมตร เริ่มเห็นแล้ว โบสถ์ซางตาครูส เหมือนในรูปที่เห็น

ฉันสังเกตว่า ที่นี่ค่อนข้างเงียบ ฉันไม่ได้หมายความเพียงแค่ โบสถ์ เท่านั้น แต่ตลอดเส้นทางที่เดินมาตั้งแต่ถนนหลัก เข้ามาในซอยนี้ ไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่านไปมาเท่าไร นี่ขนาดมากลางวัน แดดเปรี้ยงขนาดนี้ ยังให้ความรูสึกโหวงเหวงชอบกล

ตรงหน้าปากซอยที่เข้ามานั้น เมียงมองเห็นร้านอาหารอยู่ 2-3 ร้าน ดูแล้วก็สะอาดน่านั่ง เล็งๆไว้ก่อน ถ้าข้างในไม่มีร้านอาหาร เดี๋ยวมื้อกลางวัน ออกมากินที่ร้านแถวนี้ละกัน

หลังจากเห็นโบสถ์ไกลๆแล้ว เดินมาอีกประมาณ 50 เมตรก็จะมีซอยเขียนว่า ชุมชมกุฎีจีน อือม.. ใกล้ความจริงแล้วละเนี่ย

เดินเข้าไปประมาณ 200 เมตร ก็จะป้ายบอกว่า ชุมชนกุฏีจีน ข้างหน้าที่เห็น ก็โบสถ์ซางตาครูส



อากาศร้อนมาก แถวนี้ไม่มีใครเลย อ้อ เพิ่งนึกออก วันนี้วันหยุดนี่นา

เห็นชาวบ้านคนหนึ่งออกมายืนหน้าประตู ก็เลยสอบถามเรื่องขนมกุฎีจีนอันเลื่องชื่อว่า จะไปหาซื้อได้ที่ไหน พี่ผู้ชายบอกว่า ที่บ้านเขาก็ทำขาย















ก็เลยเดินตามไปแล้วก็พบว่า ที่บ้านเขาเป็นแหล่งทำขนมกุฎีจีน มีชาวบ้านกำลังทำอยู่ 2-3 คน ฉันก็เลยขอถ่ายรูปเก็บไว้ก่อน แล้วบอกว่า ขากลับจะแวะมาซื้อ

ออกไปถ่ายรูปโบสถ์ซะก่อน แดดเปรี้ยงแบบนี้ รูปน่าจะ ok นะ

เดินแวะเข้าซอย กุฎีจีน 7 มีบ้านหลังหนึ่ง ตกแต่งหน้าบ้านซะน่ารักเชียว ประตูบ้านเป็นสีฟ้าสดใส ข้างหน้ามีสวนเล็กๆ ประดับด้วยตุ๊กตาดินเผา รูปเด็ก ปลา ฯลฯ


เห็นป้ายบอกทางไปบ้านขนมฝรั่งกุฎีจีน อยู่ในซอย 7 เดินตามทางไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็เจออีกร้านหนึ่งกำลังห่อขนมอยู่

แต่ดูท่าทางเจ้าของร้านไม่ค่อยเต็มใจรับแขก หรือว่า ลูกค้าขาประจำเขามีพอแล้วก็ไม่ทราบ พูดแบบมะนาวไม่มีน้ำ โดยแทบไม่มีฉันเลย ทำนองว่า ตอนนี้ขนมแบบใส่หน้าหมดแล้ว มีแต่ขนม.. ถาดเล็ก.. เท่านั้น

ฉันเมียงๆมองๆอยู่ครู่หนึ่ง ไม่พูดอะไรเหมือนกัน แล้วก็เดินออกมา ไม่ซื้อก็ได้ ไปซื้อร้านแรกก็ได้
:
สุดท้ายฉันก็มาแวะร้านแรกที่เข้าไป แล้วก็ถามเจ้าของร้านว่า จะขอชิมขนมหน่อยได้มั๊ย เพิ่งเห็นทำร้อนๆขึ้นมา น่าอร่อย
ชิมได้ไม่หมดทั้งอันหรอก เหลืออยู่อีกครึ่ง แล้วก็ซื้อมา ขนมขาย 4 ชิ้น 25 บาท ฉันก็เลยซื้อมา 4 ถุง 100 บาท ไว้ไปฝากที่ทำงานกับที่บ้านน่าจะพอนะ

นั่งคุยกับป้าที่ทำขนม สอบถามว่า ปรกติที่นี่เขาจะโบสถ์ให้เข้าไปชมข้างในหรือเปล่า ป้าบอกว่า เปิดให้วันอาทิตย์ แต่ถ้ามาเป็นหมู่คณะ จะขอให้เปิดก็ได้นะ พร้อมกับเน้นย้ำว่า ข้างในโบสถ์สวยมาก

อือม... ฉันก็ลืมไป วันอาทิตย์เป็นวันที่ชาวคริสต์จะมาโบสถ์นี่นา ไม่เป็นไร ไว้วันหลังก็ได้
:
ออกจากชุมชนกุฎีจีน จุดหมายต่อไปไปวัดกัลยาฯ เห็นแล้วว่าอยู่ตรงไหน

วันนี้เป็นวันอาสาฬหบูชา ก็เลยมีประชาชน รวมทั้งนักท่องเที่ยว มาทำบุญ ไหว้พระ ที่วัดกันมาก ที่นี่จะมีหลวงพ่อโต ซำปอกง พระประธานองค์ใหญ่มาก เป็นที่สักการะของชาวพุทธ

หอระฆัง


วัดกัลยา ณมิตร

ฉันไหว้พระขอพร พร้อมกับเซี่ยงเซียมซี ซะหน่อย ไหนๆก็มาวัดแล้วนี่


หลวงพ่อโต

ที่วัดนี้ จะมีคนมาขอทำบุญทำทานค่อนข้างเยอะ ฉันไหว้พระเสร็จ ก็เดินไปทางท่าน้ำ ว่าจะไปเลี้ยงอาหารปลาซะหน่อย ก็จะมีทั้งเด็ก คนแก่ มาขอทานเยอะจัง

สุดท้ายก็ไม่ได้เลี้ยงปลา เพราะอยากซื้อขนมปัง ราคา 10 บาท แต่คนขายบอกว่าหมด มีแต่อาหารเม็ด ราคา 20 บาท คนขายบอกว่า ทำบุญวัดค่ะ

ไม่ดีกว่า ถ้าฉันจะทำบุญ ก็เดินไปทำบุญดีกว่า ซื้อแบบนี้ ไม่รู้ว่าเงินจะเข้าวัดจริงหรือเปล่า

วันนี้ ก่อนเดินเข้าวัด ก็เห็นมีการเชิดสิงโต อยู่ด้านนอก ก็เลยค่อนข้างจะเชื่อว่า จุดหมายต่อไปของฉันคือศาลเจ้าแม่กวนอิม ต้องอยู่แถวนี้แน่นอน

นั่งกินน้ำให้หายเหนื่อยซะหน่อย (กลับบ้านวันนี้ต้องตัวดำแหง แดดแรงมาก) แล้วก็สอบถามป้าเจ้าของร้าน ก็ได้ความว่า เดินลัดเลาะเข้าซอยนี้อีกนิดเดียว ก็ถึงแล้วล่ะ

พอมาถึง อือม.. วัดเจ้าแม่กวนอิมแห่งนี้ ดูสงบจังอ่ะ ตรงข้ามกับ วัดกัลยา เลย ที่นี่ไม่ค่อยมีใครมาแหะ แต่ดูสงบร่มรื่น สะอาด
ศาลเจ้าแม่กวนอิม (กวนอันเก๋ง)

บรรยากาศดีอ่ะ ยิ่งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา แถมด้านหน้าวัดมีทางเดินเล็กๆ เลียบแม่น้ำ มีม้านั่งรับลม ฉันว่า ตอนเย็นๆค่ำๆ บรรยากาศต้องดีแน่ๆ

บรรยากาศหน้าวัด

ฉันถ่ายรูปได้แต่ด้านหน้าเท่านั้น ด้านในเขาไม่ให้ถ่ายรูป ฉันว่าศาลเจ้าแห่งนี้ จัดได้ลงตัวทีเดียว ดูเก่าแก่ แต่ไม่น่ากลัว และสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก

หลังจากนมัสการเจ้าแม่กวนอิม พร้อมกับเซี่ยงเซียมซี ตามระเบียบแล้ว ก็ขออำลา เพราะจะไปต่อสถานที่แห่งอื่น

วันนี้ได้มา 3 สถานที่ ทั้ง โบสถ์ วัด ศาลเจ้าแล้ว อีกแห่งหนึ่งตามข้อมูลที่ฉันได้มาคือ มัสยิดบางหลวง

สอบถามคนแถวนั้น ต้องเดินจากวัดกัลยาไปประมาณ 700 เมตร อือม.. ไหนๆก็มาแล้ว ไปเที่ยวให้ครบละกัน

ฉันเดินไปเรื่อยๆ ถามคนแถวนั้น จริงๆก็เดินไปนาน ก็เจอ ชุมชนกุฎีขาว มีป้ายบอกทางไป มัสยิดบางหลวง

ฉันเดินเข้าซอยไป เป็นซอยชุมชนกุฎีขาว เดินไปจนเกือบสุดซอยแล้วล่ะ แต่ฉันรู้สึกแปลกๆ เหมือนคนแถวนี้ จะมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ ด้วยรู้ว่า ไม่ใช่คนแถวนี้ เป็นนักท่องเที่ยว หรือใคร มาทำอะไรแถวนี้

ฉันก็เลยรู้สึกอึดอัด แปลกถิ่น อีกอย่างไม่แน่ใจว่า มัสยิดเนี่ย ถ้าเราไม่ใช่อิสลาม เขาจะให้เข้าไปหรือเปล่า อย่ากระนั้นเลย ไว้วันหลังมากันหลายๆคน ค่อยเข้าไปละกัน สำหรับวันนี้ 3 วัฒนธรรมก็พอแล้ว
:
บ่ายกว่าแล้ว เดินซะเหนื่อยเลย สุดท้ายมื้อกลางวัน ก็มาที่ร้านที่ได้เล็งไว้แต่เช้า ชื่อร้านมะนาวหวาน เห็นหน้าร้านมีเมนูบอกว่ามีอาหารจานเดียวหลากหลาย ทั้งสเต็ก แล้วก็กาแฟสด

ร้านดูน่ารักดี ที่สำคัญติดแอร์ด้วย เหมาะกับบรรยากาศบ่ายๆของวันนี้ที่ซู้ด

ฉันสั่ง สุกี้กุ้ง ผ่านไปเกือบ 20 นาที ทั้งๆที่ทั้งร้านมีฉันเป็นลูกค้าอยู่คนเดียว หลังจากกินแล้วก็เอ่อ.. กำลังคิดว่า ที่ฉันเป็นลูกค้าคนเดียวตอนนี้ เพราะว่ามันเลยเวลาอาหารกลางวันมาแล้ว หรือว่ารสชาติของอาหารกันแน่

แต่สุดท้ายก็ยังไม่เข็ด อยากสั่งกาแฟสดมากิน เอานะ ลองให้โอกาสอีกครั้ง สั่งคาปูร้อนมากินซะแก้ว

นี่ละน๊า ไม่ยอมเชื่อสัญชาติญาณของตัวเอง ผิดครั้งแรกยังให้อภัย ผิดครั้งสองเนี่ย... ไม่รู้จะบอกว่าไง คือรสชาติกาแฟที่กินเนี่ย ไม่ได้กลิ่นกาแฟแม้แต่น้อย เหมือนจะมีแต่นมกับปลายหางของกาแฟอ่ะ

เฮ้อ.. วันนี้เหนื่อยจัง น่าจะเป็นเพราะเพลียแดด ตอนแรกกะว่า จะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์มิวเซียมสยามแถวท่าเตียนต่อ แต่ไม่ไหวล่ะ ไว้วันหลังแล้วกัน ยังไงซะวันนี้ก็ได้เที่ยวสมใจอยากแล้ว

0 Comments: