Saturday, January 21, 2006

HongKong - ตามหา TRAM

เช้านี้อำลา ZenChen แล้วอากาศหนาวกว่าเมื่อวานอีกแนะ เอาเสื้อหนาวที่ซื้อมาใส่เลยดีกว่า

นัดกับคนขับรถ 8 โมงกว่าๆ แต่ร๊อรออยู่เกือบ 9 โมงแล้วทำไมยังไม่เห็นอีกแน่ะ พี่พีเลยไปโทรถาม Zinnia

ช่วงที่พี่พีไปโทรศัพท์ ก็เจอคนขับรถพอดี ไม่ใช่ Mr.ซิ่งแฮะ เขาบอกว่าไปจอดอยู่ที่อื่น มาตั้งแต่ 8 โมงแล้ว คลาดกันจนได้

มีคนข้ามประเทศกันเยอะมาก รถติดกันยาว รอการตรวจคนเข้าเมืองเนี่ยแหละ ขาออกจากจีนไม่ค่อยมีไร แต่ขาเข้าฮ่องกง ค่อนข้างเข้มงวด มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายด้วย กลัวเป็นหวัดนกมั้ง

คนขับรถที่นี่ใจร้อน หรือว่าเครียดกันแน่ รถที่เรานั่งอยู่นั้น ตาคนขับให้รถอีก 2 คันแซงหน้าไปก่อน เห็นว่าเป็น Huawei แต่รถคันหลังๆเนี่ยซิ ไม่พอใจ ลงกันมา 3 คน ประมาณว่า คนที่หนึ่งลง คนที่สอง สาม ตามลงมากันเป็นแถว มาถึงก็ชี้หน้าด่าๆๆๆๆ (ฟังไม่ออก) ท่าทางเหมือนจะเอาเรื่อง ฉันรีบบอกเอ๋ รีบล๊อครถเร็วเข้า คุยกันในรถว่า พวกเราไม่เกี่ยวด้วยน๊า

พอผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง ค่อยยังชั่ว ติดแหงกตรงนี้เป็นชั่วโมง รถวิ่งข้ามมาฮ่องกง ตรงมาโรงแรมชื่อ Dorsett Seaview Hotel อยู่ใจกลางเมืองเลยล่ะ


Dorsett Seaview Hotel

โรงแรมเล็กมากๆ Lobby เล็กๆมีคนเตรียมเช็คอินเช็คเอ้าท์อยู่หลายคน แต่ห้องพวกเรายังไม่เสร็จ พวกเราเช็คอินแล้วแต่กระเป๋าฝากไว้ก่อน ออกเที่ยวเลยล่ะกัน ตอนมืดค่อยเข้าโรงแรม

ที่นี่อากาศหนาวอ่ะ หนาวกว่า ZenChen อีก โชคดีจังซื้อเสื้อกันหนาวพอดีแถมซักเรียบร้อยแล้วด้วยอิอิ

ฮ่องกง ต้นตำรับตึกสูงๆ มองไปที่ไหนตึกสูงๆทั้งน้าน แต่รถเมล์เขาเดิ้นนะ มี 2 ชั้น มีโทรทัศน์ด้วย เบาะต่างๆดูสะอาด ไม่มีกระเป๋ารถเมล์ ขึ้นไปก็หยอดเหรียญ ไม่มีการทอนเงิน หยอดเกินได้แต่ห้ามขาด

พี่พีจะพาไป Stanley Plaza เป็นสถานที่ขายของเน้นของที่ระลึก เช่น ภาพวาดด้วยภู่กันจีน, ตัวหนังสือจีน, ภายถ่าย Hong Kong สมัยแรกเริ่ม, Magnet, Post Card, พวงกุญแจ อะไรทำนองเนี้ย

ต้องนั่งรถไฟฟ้าแล้วไปต่อด้วยรถเมล์ ก่อนที่จะขึ้นรถเมล์ พวกเราก็แวะกินข้าวเที่ยงกันก่อน เป็นเหมือนร้านอาหารญี่ปุ่น ราคา 76 HK

รถเมล์ฮ่องกง

นั่งรถเมล์ พวกเราไปนั่งที่ชั้น 2 ไปจนสุดสถานี รถเมล์วิ่งออกนอกเมือง ก็ดีได้ชมบรรยากาศรอบๆเมืองไปในตัว เห็นกระเช้าอยู่ไกลๆ

รถวิ่งขึ้นเขาไปเรื่อยๆ เห็นมีบ้านคนประปราย คนที่อยู่แถวนี้ได้คงมีกะตังค์
Stanley Plaza

ไปถึง Stanley Plaza สวยดีอ่ะ เดินๆดูๆ ถ่ายรูปไปด้วย แต่บางร้านติดป้ายไม่ให้ถ่ายรูป แต่ก็แอบถ่ายมาได้หลายรูปอยู่

Postcard & Magnet

ตัวหนังสือจีน

ฉันซื้อ postcard มา 2 ใบใบละ 2 HK และก็ซื้อ Magnet ใส่กรอบ ราคา 20 HK มาด้วย แต่ตอนหลังมาเห็นที่ใส่ปากกา สวยกว่าอ่ะ เอ๋ซื้อมา 20 HK เท่ากัน สุดท้ายก็ขอแลกกับเอ๋ อิอิ

อยู่ที่นี่ได้สักพักก็นั่งรถเมล์กลับมาที่เดิม พี่พีจะพาไป Victoria Peak เห็นว่าเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเกาะฮ่องกงได้ทั้งเกาะ

พวกเราขึ้นบันไดเลื่อน ขึ้นไปเรื่อยๆเลยอ่ะ แวะถ่ายรูปเป็นระยะ ช่วงที่วิวสวยๆ เห็นมีตึกหนึ่งเป็นสถานีตำรวจ ตึกสวยมาก มารู้ตอนหลังว่า บันไดเลื่อนนี้ยาวที่สุดในโลกด้วยนาประมาณ 800 เมตร
แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นบันไดเลื่อนรวดเดียว 800 เมตรนะ เป็นช่วงๆ บางช่วงเป็นทางเดิน แต่ก็เหมือนต่อกันยาว

ออกมาจนสุดบันไดเลื่อน เห็นผู้ชาย 2 คนยืนอยู่ ตอนแรกนึกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ แต่ดูอีกที ไม่ใช่แฮะ เหมือนเป็นพนักงานบริษัทเอกชนซักแห่ง ก็เลยสอบถามทางไปขึ้นรถราง (Tram) เพื่อไป Peak เอ๋เสนอว่า เรียกแท็กซี่ดีมั๊ย จะได้ไม่เสียเวลา แต่พี่พีลองสอบถามคนแถวนั้นแล้วว่า ให้ลองเดินไป

เดินอ้อมไปก็อ้อมมา เจอใครก็ถามเขาไปเรื่อยๆ ผ่านตึกต่างๆ สวนสาธารณะ โบสถ์ โรงเรียน แต่ไม่ถึง Tram ซักกะที
สุดท้ายเจอฝรั่งกับ(ดูเหมือน)สาวไทย สอบถามทางถึงได้รู้ว่า ใกล้จะถึงแล้ว ให้เดินอีกนิด (แต่พีพี่เกือบพาหลงอีกล่ะ ดีนะที่เรากะเอ๋ยืนฟังอยู่ด้วย)
สุดท้ายก็มาถึงจนได้ เมื่อยเหมือนกันนะเนี่ย มาที่สถานีเพื่อขึ้นรถราง คนเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ต้องเข้าคิวต่อแถวกันยาวเหมือนกัน


ต่อแถวรอขึ้น Tram

ค่าบริการเที่ยวเดียวคนละ 20 HK ถ้าไปกลับก็ 30 HK ตกลงกันว่าไปเที่ยวเดียวก็แล้วกัน
ตอนรถรางวิ่งขึ้นไปเนี่ย บางช่วงชันมากๆ มีการค้างบางจุดให้นักท่องเที่ยวชมทัศนียภาพด้วย นั่งไม่ถึง 10 นาทีมั้งก็ถึงล่ะ

อากาศหนาวจริงๆ ลมพัดมาเย็นยะเยือก เสียดายตอนไปเนี่ย สัญลักษณ์ของ Victory Peak กำลังซ่อมแซมเลยถ่ายรูปออกมาไม่สวยแฮะ

สัญลักษณ์ Victoria Peak


เดินมาอีกหน่อย ก็จะเป็นจุดชมวิวที่ว่า และก็เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกัน
Victoria Peak View

ที่นี่เขามีบริการถ่ายรูปแบบมืออาชีพให้ด้วย มี Notebook ตั้งโชว์รูปแบบมีอาชีพ อือม ถ่ายสวยดี แต่ไม่เอาพวกเราจะโชว์ฝีมือกัน
Victoria Peak View

Victoria Peak View

ถ่ายยากเหมือนกัน ลมแรง คนเยอะ ตอนที่ถ่ายเนี่ย โพล้เพล้แล้วล่ะ รอสักพักเริ่มมืด ตึกต่างๆเริ่มเปิดไฟกันล่ะ
ขากลับนั่งรถเมล์กลับ ตอนแรกว่าจะนั่งแท็กซี่ โชคดีหน่อยเดินออกมาจาก Victory Peak แล้วเจอรถเมล์พอดี

ขากลับนี่นั่งรถแล้วมึนๆแฮะ แย่กว่าตอนไปแม่ฮ่องสอนอีกอ่ะ อาจเป็นเพราะนั่งอยู่ชั้น 2 แล้วก็ฝีมือคนขับด้วยละ มึนหัวตึบเลย รถติดด้วย

กลับเข้าเมืองมาอีกครั้ง ว่าจะไป Tsim Sha Tusi เห็นว่าเป็นแหล่งชอปปิ้งอีกแหล่งหนึ่ง ไปขึ้นทีสถานี Hong Kong แล้วก็เดินไปสถานี Central ตรงนี้เดินไปไม่ต้องขึ้นรถ สถานีตรงนี้เป็นชุมทางของรถไฟสายสีเหลือง, ฟ้า, แดงและน้ำเงิน เป็นสถานีที่ใหญ่มาก



นั่งรถไฟฟ้าไปอีก 2 สถานี ก็ถึง ที่นี่คนเยอะมาก แสงสีเพียบ สาวๆที่นี่แต่งตัวเดิ้นน้อยกว่าสาว ZenChen แฮะ แต่เห็นคนแก่มาเดินตามท้องถนนด้วย
มื้อเย็น ว่าจะกินบะหมี่ร้อนๆซักกะหน่อย แก้หนาว ว่าแล้วก็เมียงมองเห็นร้านบะหมี่ เอ้าลองดู
ร้านนี้มีเมนูภาษาไทยด้วย แสดงว่าคนไทยมากินที่นี่เยอะแน่เลย สั่งบะหมี่เกี๊ยวมากิน ราคาชามละ 28 HK = 140 บาท จะบ้าตาย เมืองไทย 25 บาท กลับเมืองไทยจะกินให้ชุ่มเชียว


เมนูภาษาไทย

บะหมี่เกี๊ยวน้ำ140 บาท

เดินเที่ยวเล่นไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้ซื้อไร ของแพงอ่ะ จะซื้อรองเท้าให้แม่ ร้านริมถนน ราคา 130 HK จะบ้าเหรอ
คิดไปคิดมา นึกออกว่าน่าจะซื้อเชอร์รี่ดีกว่า เห็นมีคนมาขายข้างถนน สอบถามอาม่าได้ความว่า 1 ปอนด์(เขาไม่ได้ชั่งเป็นกิโลเหมือนบ้านเรา) ราคา 30 HK พอๆกับเมืองไทยนะ หรือว่าเราไม่รู้แหล่งซื้อ

กลับโรงแรม เช็คอินดีกว่า คืนนี้ พี่พีนอนกับเอ๋ เรานอนคนเดียว ราคาห้องต่างกัน แต่ไม่รู้เท่าไร
ห้องเล็กมากๆ แต่เอาน่า นอนคนเดียว ห้องพี่พียิ่งเล็กกว่า มี 2 เตียง ห้องก็ไม่มีทางเดินเลย แต่ห้องพี่พีมีตู้เย็น

ออกไปเดินซื้อน้ำ ไว้พรุ่งนี้เช้าต้มมาม่ากิน ซื้อมา 2 ลิตร ขวดละ 10 HK 2 ขวด 15 HK เป็นราคาโปรโมชั่น น้ำที่นี่ราคาแพงเหมือนกันนะ
ขากลับ เห็นข้างทางขายของเหมือนคลองถม มีร้านพวก sex shop ขายหลายร้านเหมือนกันนะ
หลับดีกว่า เหนื่อยทั้งวัน พรุ่งนี้ไม่ตื่นเช้าละ

0 Comments: