Sunday, June 04, 2006

กว่าจะได้ดู The DaVinci Code

และแล้วในที่สุดก็ได้ดู The DaVinci Code หลังจากที่อ่านหนังสือเล่มนี้มาได้ตั้ง 2 ปี ตอนอ่านก็อ่านด้วยความสนุกสนาน นึกภาพไปต่างๆนาๆ ช่วงนั้น กระแสของหนังสือเล่มนี้มาแรงมาก ได้ยินว่าจะสร้างเป็นภาพยนตร์ ก็นึกภาพหน้าตา พระเอก นางเอก ภาพของศาสตราจารย์ แลงดอน ที่คิดออก ก็นี่เลย แฮริสัน ฟอร์ด (ยังติดภาพจากเรื่อง อินเดียน่า โจนส์ อ่ะ)

กว่าจะได้ดู
เอาล่ะ พอหนังเข้าโรง วันที่ 18/05/06 ก็อยากไปดูนะ แม้ว่าจะเตรียมใจไว้แล้วว่า สร้างเป็นหนัง ไม่น่าสนุกเหมือนอ่านหนังสือ แต่คนที่อ่านหนังสือ บางกลุ่มก็มักจะเป็นอย่างนี้แหละ อ่านแล้วก็อยากดูหนังว่า ตัวหนังสือถ้าถ่ายทอดเป็นหนังแล้วจะเป็นยังไง ก็ขนาด Harry Potter ที่ว่าจะไม่ดู ไม่ดูแล้ว สุดท้ายก็ดูจบ 4 ภาคอยู่ดี

นัดกับเจ้าโต้งว่าจะไปดูด้วยกัน แต่แล้วก็มีเหตุ ช่วงนั้นโต้งโหมงานหนักมาก งานเร่งรัด ต้องทำเสาร์-อาทิตย์ เลิกดึกดื่นทุกวัน OK ไม่เป็นไร

สัปดาห์ต่อมานึกว่าจะได้ไปดู แต่แล้ว โต้งก็มาทำงาน เสาร์-อาทิตย์อีก เฮ้อ เห็นแล้วเหนื่อยแทน lunar จะไปดูก่อน ก็นะ.. บอกน้องไว้แล้วว่าจะไปด้วยกัน ก็เลยยังไม่ได้ดู

สัปดาห์ที่ 3 โต้งบอกว่าหนังออกจากโรงไปแล้ว ว๊า! อดดูเลยอ่ะ

เมื่อวานเข้าไปที่โรงปูน ขากลับตอนบ่ายๆผ่าน Major Hollywood แวะเข้าไปดูหน่อยดีกว่า เผื่อหนังยังไม่ออก
ปรากฏว่า ยังไม่ออกจริงๆด้วย แต่มีฉายแค่ 2 รอบ 11:00 กับ 22:00 โอ้ ถ้างั้นพรุ่งนี้มาดูรอบ 11:00 โมงละกัน

วันนี้ OK ได้ฤกษ์ล่ะ จะไปดูให้ได้ ไปถึงโรงหนัง ปรากฏว่า วันอาทิตย์มีฉายแค่รอบเดียวตอน 4 ทุ่ม โอ้ พระเจ้าช่วย กล้วยทอด สงสัยจะอดดูแล้วอ่ะ (เรานะเรา ทำไมไม่โทรมาถามก่อน จะได้ไม่เสียเวลา เพราะมัวแต่ไว้ใจข้อมูลใน web ก็ยังนี้แหละ)

เอาไงดี โทรสอบถามโรงหนังอื่นดีกว่า เผื่อจะยังมี แต่ไหงโทรไป Major Cineplex แต่ไม่สามารถติดต่อได้ซะงั้น (โทรไป 10 กว่า call อ่ะ)

กลับดีกว่า แต่เอ.. ลองแวะไป The Mall งามวงศ์วานดูซะหน่อยดีกว่า นั่งรถไปอีกไม่ไกลเท่าไร กลับบ้านเลยก็รู้สึกแบบว่า ผิดหวังเล็กๆ
และแล้วในที่สุด ก็ได้ดูจนได้ โชคดีจัง รอบ 12:30 น. ตีตั๋วเสร็จก็เข้าไปเลย

DaVinci Code - เป็นหนังสือที่อ่านสนุก แต่เป็นหนังที่..
lunar ไม่ขอเล่าเรื่องหรอกนะ เพราะถ้าจะเล่าเรื่องย่อ ต้องกลับไปเปิดหนังสือใหม่ แต่ดูหนังแล้ว บอกตรงๆว่า ออกจะน่าเบื่อ แต่อย่างว่าแหละ หนังสือแนวนี้ ตอนอ่านที่สนุกก็เพราะ เหมือนอ่านประวัติศาสตร์ เช่นที่มาของ ศุกร์ 13 ลัทธิต่างๆ (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า) แต่จะเอาพวกนี้มาบรรยายในหนัง มันก็จะเบื่อๆ
ในหนังสือ แต่ละครั้งที่มีการไขปริศนา อ่านแล้วอึ้ง ทึ่ง โอ้ คิดได้ไง เล่มนี้ อ่านไปได้กลางๆเรื่อง ก็พอจะรู้ว่า ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง (แต่เรื่อง Angels & Demons ไม่รู้อ่ะ เดาไม่ถูก)

หลังจากที่ดูผลการโหวตแล้วก็พบว่า คนที่ไม่เคยอ่านหนังสือ ก็บอกว่า OK จนถึง ชอบเลยล่ะ แต่คนที่อ่านหนังสือแล้ว ก็ส่วนใหญ่จะไม่ชอบ --> เรื่องปรกติอยู่แล้ว

หนังเรื่องนี้ได้เรต PG13 แต่วันนี้เห็นมีคนพาเด็กไปดูด้วย ไม่น่าเลยน๊า เพราะมีหลายฉากที่รุนแรง เช่น ฉาก สิลาส ทรมานตัวเอง, โซนิแยร์ตาย, ฆ่าแม่ชี

ได้ยินข่าวมาว่า จะมีการนำ Angels & Demons มาสร้างเป็นหนัง เรื่องนี้น่าจะ OK กว่านะ สนุกกว่าด้วย เพียงแต่ จะไปถ่ายทำยังไง ทั้งวาติกันเอย ห้องสมุดวาติกันที่น้อยคนนักจะได้เข้าไป แล้ว CERN อีกล่ะ อีกอย่าง ฉากหลายฉาก ออกจะน่ากลัว เช่น การสังหารพระคาดินัล, การตายของ เวตรา อึ๊ย! สยอง

0 Comments: