เช้านี้ lunar ตื่นแต่เช้า ดูเหมือนว่าเมื่อคืนฝนจะตกพรำๆ อากาศดีมากเลยอ่ะ อยากให้กรุงเทพเป็นแบบนี้บ้างจัง
ออกไปเดินเล่นดีกว่า โอ้โฮ บรรยากาศเหมือนอยู่ต่างประเทศเลย หมอกหนามาก อากาศเย็น ว่าแต่เดินแถวๆที่พักจนหมดแล้ว อย่ากระนั้นเลย ไปเดินที่ในเมืองดีกว่า ฉายเดี่ยวซะเลย ไปดูบรรยากาศยามเช้า
เช้าที่นี่ ไม่มีใครออกมากันเลย ยังกับเมืองร้างแนะ เดินจนทั่ว ไม่มีไรก็เลยกลับดีกว่า ขากลับดันไปเจอฝรั่งคนนึง พอดีเดินผ่านบังกะโล หรือเรือนพัก สักอย่างของแก แกก็ออกมาทักทาย แต่ดูท่าทางเหมือนกับจะยังเมาค้างไงก็ไม่รู้ คุยกันได้สักพัก เหมือนกับว่า มจากอังกฤษ มาที่นี่ได้สัก 4-5 ปีแล้ว ชวนให้มาพักที่เรือนพักของแก บอกว่า สรุปว่า ทักทายเรียกลูกค้าว่างั้นเหอะ แต่ lunar ก็บอกไปว่า จะไปหลวงพระบางวันนี้แล้ว
กลับถึงที่พัก จัดแจงอาหารเช้าที่โรงแรมนั่นแหละ เช้านี้กินอาหารแบบ ชาวยุโรป คือ ไข่ดาว แฮม ขนมปังแบบฝรั่งเศสอ่ะ แต่ขนมปังอันเล็ก แล้วก็ไม่ค่อยแข็งเหมือนที่เวียงจันทน์ ลองกินกาแฟลาวอีกครั้ง อือม.. วันนี้รสชาด การแฟลาวอร่อยกว่าเมื่อวานแหะ
เสร็จสรรพ พวกเราต้องออกเดินทางกันต่อล่ะ นัดกับบริษัททัวร์ไว้ 9 โมงให้มารับ นั่งรถกระบะไปต่อรถตู้ ตอนแรกก็นึกว่ามีแต่พวกเรา แต่ที่ไหนได้ มีนักท่องเที่ยวคนอื่นๆอีก ส่วนใหญ่เป็นฝรั่งแหะ สรุปว่า รถตู้ 13 ที่นั่ง ก็นั่งกันเต็ม
ระยะทางจากวังเวียงไปหลวงพระบาง ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง และก็ไม่ใช่ทางราบด้วย ทางเลี้ยวลดคดเคี้ยว ยิ่งกว่าวันแรกอีก นั่งรถมาตลอดทาง หัวโขกกับรถตู้มาตลอด แต่พวกฝรั่งที่นั่งมาด้วยเนี่ยซิ เก่งแหะ ไม่ยักกะหลับเลย แถมนั่งก็ลำบากกว่าพวกเรา เพราะนั่งหลังสุด ตัวสูงขายาว ก็เลยต้องชันเข่ามาตลอดทาง (นับถือจริงๆ แต่เขาคงไม่รู้ว่าจะบ่นยังไงมั้ง)
วิวข้างทาง ก็สวยนะ บางช่วงมีดอกบัวตองเต็มไปหมด แต่ไม่สามารถถ่ายรูปได้ เพราะรถวิ่งเร็ว คนบางคน กดดันอยู่นั่นแหละว่าให้ถ่ายรูป ทำไมไม่ลองมาถ่ายเอง จะได้รู้ว่า รถวิ่งเร็วๆ เลี้ยวซ้ายขวาอย่างนี้ ใครจะไปชัตเตอร์ทันล่ะ
มีแวะให้กินข้าวระหว่างทางด้วยที่กิ่วกะจำ พวกเราไม่รู้ว่าจะกินไรดี เลยสั่งอาหารอินเตอร์ซะเลย ข้าวไข่เจียว ข้าวหมูทอด ข้าวผัด แหะแหะ
เห็นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นนั่งข้างๆ ซดก๋วยเตี๋ยวชามใหญ่ สูดเสียงดัง ดูๆแล้วก็น่ากินแหะ เพราะที่นี่อากาศหนาวอ่ะ ตั้งแต่ลงจากรถมาแล้ว ลมพัดที หนาวเย็นยะเยือก
มาถึงหลวงพระบาง รถตู้จอดที่ท่ารถ พวกเราก็เหมารถ skylab เข้าที่พักอุดมสุข (OUDOM SOUK GUEST HOUSE) ใกล้กับไปรษณีย์ อากาศที่นี่หนาวกว่าที่วังเวียงอ่ะ ที่นี่เราเข้าพัก 3 ห้อง lunar นอนกับพี่ตุ่ม
ที่พักแถวนี้มีเยอะอ่ะค่ะ เป็นเรือนพักตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอย ใครมาเที่ยว แนะนำให้มาหาห้องพักแถวนี้ก็น่าจะดี
ตอนแรกกะว่า เอาของเข้าห้องพัก แล้วจะออกมาเดินเที่ยว แต่ฝนตกพรำๆ เลยอยู่ในห้องไปก่อน
พอฝนเริ่มซา ก็เย็นแล้วอ่ะค่ะ ออกไปเดินเที่ยวกันดีกว่า
เดินเที่ยวในตลาด เจอของกินหน้าตาแบบนี้ค่ะ
สอบถามแล้วได้ชื่อว่า ข้าวจี่ เป็นข้าวเหนียวเอาไปปิ้ง เลยลองซื้อมากิน รสชาติไม่ ok อ่ะค่ะ เพราะเค็ม สรุปว่า กิน 1 อันไม่หมด
ไปเที่ยวเดินตลาดม้ง เป็นตลาดที่ขายผ้าซะเป็นส่วนใหญ่ เช่นผ้าพันคอ กระเป๋า เสื้อ ผ้าห่ม ผ้านวม ราคาก็ไม่แพงนัก ต่อรองได้
เดินรอบๆในตัวเมือง ส่วนใหญ่ร้านค้าจะทำไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว ส่วนบ้านเรือนจะเป็น สไตล์คล้ายๆกัน แบบว่า ถ้าบ้านใครจะปลูกบ้าน ต้องทำตามแบบที่ทางการกำหนด ไม่งั้นเดี๋ยวอดเป็นมรดกโลก
สงสัยจังว่า ที่นี่มีโรงหนัง โรงละคร คาราโอเกะ ผับหรือเปล่า แต่ดูแล้วคงไม่มีแน่นอน
เดินต่อมาอีกหน่อย ก็เจอตลาดม้งอีกล่ะ ใหญ่กว่าเมื่อตะกี้อีก มีขายของคล้ายๆกัน แต่ตลอดแนวเลย
lunar ซื้อผ้าคลุมเตียงมา 1 ผืน เป็นผ้าไหมมอญ สวยดีอ่ะค่ะ ราคา 3000 บาท ต่อเหลือ 1500 บาท ไม่รู้ว่ายังแพงอยู่หรือเปล่า แต่เนื่องจากว่า สวยถูกใจ เห็นว่าสามารถทำเป็นผ้านวมก็ได้ ก็เลยตัดสินใจซื้อมา
ซื้อเสื้อมาอีก 2 ตัว ราคาตัวละ 60 บาท ด้านหน้าสกรีนเป็นตัวอักษรลาวตัวหนึ่ง ส่วนอีกตัว เป็นรูปฝ่ามือพระพุทธเจ้า ด้านล่างเขียนว่า หลวงพระบาง
เดินจนเหนื่อย เริ่มหิวแล้ว เย็นนี้กินหรู หลังจากเดินหามาหลายร้าน สุดท้ายตัดสินใจเข้าร้าน Tum Tum Bamboo
สั่งอาหารแบบไทยๆมากิน ประมาณ ต้มยำกุ้ง , ผัดกระเพราไก่, ผัดผักรวมมิตร, ไก่ผัดตระไคร้ ส่วนเจ้านุ่นอยากลอง ส้มตำ ก็เลยสั่งมากินกัน มาลาวได้ 2 วันแล้ว ก็ยังไม่รู้ว่า อาหารลาวที่ขึ้นชื่อคือไร เห็นมีแต่อาหารไทยๆ
อิ่มหนำกันแล้ว ออกมาเดินกันต่อ ไปแวะดูทัวร์ที่จะไปกันพรุ่งนี้ เท่าที่สอบถามแล้ว ปรากฏว่า แหล่งท่องเที่ยวที่ฮิตฮอต มี 2 ที่คือน้ำตกกวางสี กับ ถ้ำติ่ง(PAK OU)
ถ้าจะไป ถ้ำติ่ง ต้องใช้เวลานั่งเรือประมาณ 2 ชั่วโมง ก็เลยตัดสินใจกันว่า จะไปแค่น้ำตกละกัน ตกลงก็ไปซื้อทัวร์ ตกคนละ 55000 กีบ (ค่ารถ 35000 ค่าเข้า 20000)
ร้านทัวร์ร้านนี้ ตอนที่ตกลงกับเจ้าของ ดูเหมือนว่า ตอนแรกจะจ่ายแค่ค่ารถก่อนก็ได้ แล้วค่อยจ่ายค่าเข้าทีหลัง แต่พอมาจองทัวร์กับลูกสาวคนสวย ปรากฏว่า ให้จ่ายเลยทีเดียวทั้งหมด
ดูเหมือนตัวลูกสาวเนี่ยจะพูดยากกว่าคนแม่แหะ
ดึกแล้วอ่ะ ขากลับว่าจะไปซดกาแฟที่ร้าน JO MA กันซะหน่อย ปรากฏว่าร้านปิดซะแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ละกัน
Saturday, November 03, 2007
LAO : Day 2 - หลวงพระบาง (1)
ร้านอาหารระหว่างทางที่กิ่วกะจำ
ตู้ไปรษณีย์ ดูเลอะๆอ่ะ
Posted by Susan Joan at 8:06 AM
Labels: ท่องเที่ยวต่างประเทศ
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 Comments:
Post a Comment