วันนี้มี trip เล็กๆไปเที่ยวใกล้ๆกรุงเทพ หลังจากที่พี่แหม่มนำเสนอ 100 ปี ตลาดสามชุก ที่จังหวัดสุพรรณบุรี
ว่าอันที่จริง ก็ยังไม่เคยไปเที่ยวสุพรรณ ถิ่นบรรหาร แจ่มใส ซักกะที ทั้งๆที่ ไม่ไกลจากกรุงเทพ คราวนี้ได้โอกาสซักกะที
ทริปนี้ ไปกัน 6 คน มี lunar,Aey,Biere,P'Tum,P'Mam,Tong ขับรถไปกัน 2 คัน วันนี้ท้องฟ้าดูหม่นๆ หลายวันนี้พายุเข้า บางทีอาจยังมีควันหลงจากเมื่อวาน
จุดแรกที่ตั้งใจว่าจะไป คือตัวเมืองชลบุรี ว่าจะไปหอคอยบรรหาร แต่ดูๆแล้ว อันเนื่องจากพวกเราเริ่มเดินทางกันเกือบ 10 โมงแล้ว ก็เลยว่าจะไปตลาดสามชุกกันก่อนเลย
ถึงตลาดสามชุกก็เกือบเที่ยงละ ยังเดินไม่เท่าไร ก็แวะกินข้าวห่อใบบัวก่อนเลย
ส่วนใหญ่สมาชิกจะสั่งข้าวห่อใบบัวกัน ลักษณะคล้ายบะจ่างเลยอ่ะค่ะ ต่างกันที่ใช้ข้าวเจ้า ไม่ใช่ข้าวเหนียว แล้วก็ห่อด้วยใบบัว แต่เครื่องต่างๆ เช่น หมู กุนเชียง เห็ดหอม กุ้งแห้ง จะเหมือนๆกัน
แต่ lunar สั่ง ก๋วยเตี๋ยวยำบก แต่จะไม่ได้ห่อเป็นคำๆ ใส่เครื่องเคียงคล้ายๆสลัด ยำ ก็ OK นะ ลองกินหลายๆอย่าง
ตลาดที่นี่เป็นชุมชนค่อนข้างใหญ่อ่ะค่ะ แต่ก็ขอชมนะคะว่า คนที่นี่ก็พยายามอนุรักษ์สถานที่แห่งนี้เอาไว้ ทำให้พวกเราได้เห็น ชุมชนเมื่อร้อยปีก่อน
คนที่นี่น่ารักค่ะ นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปได้ตามสบาย แม้แต่ร้านถ่ายรูปที่มีบริการถ่ายรูปด้วยกล้องแบบโบราณ (ร้านศิลป์ธรรมชาติ) ก็สามารถเข้าไปถ่ายรูปได้ เจ้าของร้าน ยังแนะนำอีกด้วยว่า ต้องถ่ายขาตั้งกล้องให้เห็นลายด้วยถึงจะสวย ทั้งหมดนี้ไม่คิดค่าบริการเลยสักบาทเดียว อีกอย่างดูเหมือนคนที่นี่จะอารมณ์ดี ทริปของเราพูดคุยตลกโปกฮา ชาวบ้านที่นั่นขำกันใหญ่
ภายในโรงแรมอุดมโชค ยังคงสภาพเดิมไว้เหมือนเมื่อก่อน ดูๆมันเงียบๆ วังเวง น่ากลัวชอบกล คืออาจเป็นเพราะเขาจัดให้คงสภาพเดิมด้วยมั้ง ไม่ได้จัดแต่งอะไรใหม่
วันนี้มีเด็กๆนักเรียน มาเที่ยวที่นี่ด้วย มากัน 3 คันรถบัส ทำให้ไปที่ไหน เจอแต่กลุ่มนักเรียนทั้งนั้น เลยทำให้การถ่ายรูปไม่ค่อยสะดวกแหะ
บ่าย 2 ครึ่งแล้ว ได้เวลาต้องไปกันต่อ สถานที่ต่อไปที่พวกเราจะไปคือ บึงฉวาก
เคยเห็นในทีวี เป็นแหล่งแสดงปลาน้ำจืด เคยไปดูมาหลายที่ แต่ส่วนใหญ่เป็นปลาทะเล ทั้งที่ Siam Ocean World, ที่บางแสน หรือที่สิงคโปร์ เห็นว่าที่นี่มีอุโมงค์ปลาด้วย
พวกเรารีบเดินทาง แต่ก็ยังไม่ทันกลุ่มเด็กนักเรียน ที่ล่วงหน้าไปก่อน ค่าเข้าชมที่นี่ 30 บาทค่ะ
ปลาที่นี่ก็หลากหลาย ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป แต่อุโมงค์ปลาเนี่ยซิ มีแค่นิดเดียวเองอ่ะ คือว่าเคยไปดูหลายที่ อุโมงค์จะยาวมาก มีที่นี่แหละค่ะ อุโมงค์สั้นนิดเดียว เอ๋บอกจะเอาไรมาก 30 บาทเนี่ย อือม..รวมๆก็ถือว่า OK คุ้มค่ากับค่าบัตร
แต่ที่อุโมงค์ปลาเนี่ยค่ะ แม้จะสั้นนิดเดียว แต่ก็มี option เสริม คือมีการแสดงให้อาหารปลา ปลามา มะรุมมะตุ้ม สาวน้อยน่ารักที่ให้อาหารปลา ไม่ว่าเธอคนนั้นจะว่ายน้ำไปทางไหน ปลาก็ว่ายตามติดไป อือม..ก็ดูเพลินๆดีอ่ะค่ะ
ที่นี่นอกจากมีปลาให้ชมกันแล้ว ก็ยังมีสวนสัตว์อีกค่ะ เดินไปดูจระเข้ได้นิดเดียวก็เดินกลับ เพราะเพิ่งเอียนกับฟาร์มจระเข้ที่เพิ่งไปดูมาเมื่อช่วงสงกรานต์
เย็นๆแล้ว ว่าจะกลับเข้าเมือง ไปดูหอคอยบรรหารกันสักหน่อย ไหนๆมาถึงถิ่นแล้วนี่ หอคอยที่นี่ดูอลังการเหมือนกันนะ ค่าเข้าชม 40 บาท
ขึ้นลิฟท์ไป มีทั้งหมด 4 ชั้น เดินดูรอบๆหอคอย เหมือนได้ดูรอบๆเมือง มีบริการกล้องส่องทางไกล แต่ต้องหยอดเงิน 10 บาท พวกเราไม่มีใครใช้บริการสักคน
เดินดูได้ 2 รอบ ก็กลับลงมาชั้น 3 มีของที่ระลึกขาย lunar ซื้อ postcard มา 1 ใบ เอ๋กะโต้งซื้อใบไผ่นกหวีด เป่าแล้วเหมือนเสียงนกร้อง
ออกจากหอคอย ก็ประมาณ 6 โมงเย็น หาร้านอาหารกินกันดีกว่า หลังจากสอบถาม bug แนะนำร้าน บัวเงิน,นพรัตน์ แล้วก็ลองถามกับคุณลุงเฝ้าสวนแนะนำร้าน กุ๊กโอชา แล้วก็ออกเดินทาง
กว่าจะหาร้านอาหารได้ แบบว่าไม่ค่อยแน่ใจเส้นทางที่ไปนัก เหมือนกับว่าเป็นเส้นทางที่ออกนอกเมืองยังไงยังงั้น สุดท้ายก็มาเจอร้านบัวเงิน ลงจากสะพานไผ่ขวาง ตามที่คนแถวนั้นแนะนำ
ลังเลใจอยู่ แบบว่า ไม่เห็นมีลูกค้ามาใช้บริการเลย ดูมันร้างๆชอบกล หรือว่ายังไม่ค่ำ คนยังน้อยอยู่ แต่ก็อ่ะนะ แต่ละคนเริ่มหิวกันแล้ว ก็ต้องลองดู
ให้พนักงานแนะนำอาหาร สรุปรวมๆหลายๆอย่างก็ถือว่า OK ค่ะ ไม่ผิดหวัง ราคาไม่แพงด้วย เสียอย่างเดียว ยุงชุมไปหน่อย
กว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบๆ 4 ทุ่ม ทริปวันเดียวคราวนี้ ให้ 4 ดาวครึ่งค่ะ